MGR Online - เลขาธิการ ป.ป.ส. ย้ำ “ยาอีผสมกาแฟ” ว่อนโซเชียลตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง แค่นำซองกาแฟมาโชว์เพื่อความบันเทิง พร้อมจับกุมหนุ่มแสบโพสต์หลอกขายก่อนเชิดเงินหนี
วันนี้ (8 พ.ย.) เวลา 11.00 น. ณ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยกรณีพบการจำหน่ายยาเสพติดผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย “กาแฟซอง 3,000” ซึ่งเข้าใจว่า ในกาแฟซอง เป็นยาอีผงบดผสมกับไฟว์ ไฟว์ หรือ อิริมินไฟว์ และยาเสพติดชนิดอื่นนำมาผสมรวมกัน แบ่งขายในรูปแบบซองกาแฟจำหน่าย ในราคาซองละ 3,000 บาท ว่า จากผลการติดตามสืบสวนขยายผลเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดจนทราบถึงต้นตอ และที่มาของ “ยาอีในกาแฟซอง 3,000” พบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการโพสต์ขายผ่านโซเชียลมีเดีย จำนวน 2 บัญชีการใช้งาน คือ 1. บัญชี Tik Tok รายหนึ่งพบว่ามีการโพสต์ในลักษณะร่วมกลุ่มจัดปาร์ตี้เพื่อความบันเทิง จึงเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนให้การรับสารภาพว่า เป็นกลุ่มผู้เสพยาอีในรูปแบบเม็ด และเมื่อสอบถามถึงซองกาแฟในโพสต์ดังกล่าว พบว่า เป็นเพียงการนำภาพจากอินเทอร์เน็ตมาตัดต่อพร้อมเพลงประกอบเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนหากลุ่มผู้จำหน่ายต่อไป
นายวิชัย กล่าวว่า 2. บัญชี twitter รายหนึ่งที่พบโพสต์ขายยาอีซองกาแฟซองละ 3,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบชื่อของเจ้าของบัญชีผู้โพสต์ และเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 64 ได้นำหมายจับเข้าจับกุม นายนพพร สุชัยเจริญรัตน์ ที่หอพักย่านอ่อนนุช จากการตรวจค้นห้องพักไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย โดย นายนพพร ได้อ้างว่า ก่อนหน้านี้ คัดลอกรูปภาพยาเสพติดทั้งยาอีและยาเค มาจากอินเทอร์เน็ต แล้วโพสต์ลงทวิตเตอร์และแจ้งคิวอาร์โค้ดไลน์เพื่อให้ลูกค้าใช้ติดต่อซื้อขาย ซึ่งจะให้ลูกค้าที่สนใจแอดไลน์บัญชีส่วนตัว และหลังรับยอดเงินโอนก็จะปิดกั้นบล็อกไลน์ลูกค้าคนนั้น และจะเปลี่ยนชื่อไลน์ไปเรื่อยๆ ซึ่งบัญชีไลน์ล่าสุดพบว่าทำมาประมาณ 3 เดือนก่อนปิดหนี ยอดเงินกว่า 5 แสนบาท แต่คาดว่า ก่อนหน้านี้ ทำมาเป็นปีแล้ว เบื้องต้นพบผู้เสียหายกว่า 90 ราย และสารภาพนำเงินไปเล่นการพนัน นอกจากนี้ ทั้งสองบัญชีดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ยืนยันว่า ไม่มียาอีหรือยาเสพติดอื่นผสมกับกาแฟตามกระแสข่าวแต่อย่างใด เป็นเพียงการโพสต์เพื่อหลอกลวงให้ผู้เสพหลงเชื่อและอยากลองเท่านั้น เมื่อหลงเชื่อโอนเงินก็จะถูกบล็อกไลน์หนี สำหรับการดำเนินคดีกับเจ้าของโซเชียลมีเดีย ที่โพสต์ขายยาเสพติด เบื้องต้นการโพสต์ดังกล่าว มีความผิดฐาน “โฆษณายาเสพติดให้โทษ” ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 โดยทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนพบว่าไม่พบของกลางที่เป็นยาอีผสม แต่เป็นการหลอกลวงขายยาเสพติดแทน