xs
xsm
sm
md
lg

จับนักธุรกิจไทย หลอกขายถุงมือไนไตร-บ.อเมริกาหลงเชื่อสูญเงิน 184 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ปคบ.ตามรวบนักธุรกิจไทยหลอกขายถุงมือไนไตร ในเว็บไซต์ชื่อดัง บริษัทอเมริกาหลงเชื่อ สูญเงิน 184 ล้านบาท

วันนี้ (3 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.10 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เชษฐ์พันธ์ กิติเจริญศักดิ์ ผกก.1 บก.ปคบ. พ.ต.ท.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข รอง ผกก.1 บก.ปคบ. พ.ต.ท.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ป. แถลงข่าวผลการจับกุม นายเอ อายุ 50 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1852-1853 /2564 ลงวันที่ 1 พ.ย. 64 “ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง, นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” ได้ที่ ถ.รัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากบริษัทของผู้เสียหาย ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ ไมอามีบีช, รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) ต้องการที่จะซื้อถุงมือยางสังเคราะห์ (Nitrile Glove) แบบไม่มีแป้ง จำนวน 2 ล้านกล่อง เพื่อนำมาจำหน่ายต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงติดต่อผ่านบริษัทสัญชาติจีนบริษัทหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการเกี่ยวกับการค้า นำเข้า ส่งออก และบริการรับจัดหาสินค้าต่างๆ รวมทั้งถุงมือยาง ให้กับลูกค้าทั่วโลก ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้แจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่า สามารถติดต่อหาผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือให้ได้แล้ว คือ บริษัทของ นายเอ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงมือยาง มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว

ต่อมาทางผู้เสียหายได้เข้าไปตรวจสอบบริษัทของผู้ต้องหาผ่านทางเว็บไซต์ พบว่า มีการประกาศโฆษณาขายถุงมือยาง มีความน่าเชื่อถือ จึงหลงเชื่อว่า บริษัทของผู้ต้องหาสามารถผลิตถุงมือยางได้ตามปริมาณที่ต้องการสั่งซื้อ และส่งมอบได้ทันภายในกำหนดเวลา จึงแจ้งให้บริษัทสัญชาติจีนที่เป็นคนกลาง ติดต่อไปยังบริษัทผู้ต้องหา เพื่อนัดเจรจาซื้อขายถุงมือ พร้อมทำสัญญารวมเป็นเงิน 15,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ แบ่งชำระ 12 งวด โดยให้ชำระค่ามัดจำ 40 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 6,200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 3 วัน หลังจากทำสัญญา ส่วนที่เหลือแบ่งจ่าย พร้อมทยอยส่งมอบสินค้า จนกว่าจะครบ 12 งวด (งวดแรก 9 ม.ค. 64 - งวดสุดท้าย 21 มี.ค. 64)

จากนั้นบริษัทผู้เสียหาย ได้ติดต่อขอเข้าตรวจสอบโรงงานและคลังเก็บสินค้าของบริษัทผู้ต้องหา แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่าอยู่ในสถานการณ์โรคระบาด Covid-19 ไม่สะดวกที่จะให้เข้าชมโรงงานและคลังเก็บสินค้าแต่อย่างใด กระทั่งต่อมาในวันที่ 16 ธ.ค. 63 บริษัทผู้เสียหาย ได้โอนเงินมัดจำถุงมือยางดังกล่าว จำนวน 6,200,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 184,759,900 บาท เข้าบัญชีบริษัทของผู้ต้องหาตามสัญญา

แต่เมื่อถึงกำหนดนัดรับสินค้า ผู้เสียหายได้ไปติดต่อรับสินค้างวดแรก ที่คลังสินค้า ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี แต่ปรากฏว่า บริษัทผู้ต้องหาไม่มีสินค้าส่งมอบให้ตามสัญญา โดยอ้างว่า สินค้าผลิตไม่ได้มาตรฐาน ประกอบกับพื้นที่บางส่วนในประเทศไทย ถูกสั่งล็อกดาวน์ เพราะสถานการณ์โควิด จึงเสนอจะส่งมอบสินค้าให้เพียง 2,000 กล่องเท่านั้น จากที่ตกลงงวดแรก จำนวน 100,000 กล่อง ซึ่งผู้เสียหายจึงปฏิเสธ และพยายามติดตามทวงถามเรียกให้คืนเงินมัดจำเรื่อยมา แต่ได้รับการปฏิเสธ และไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ ได้ตรวจสอบที่ตั้งสำนักงานบริษัทของผู้ต้องหา ในพื้นที่ ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว พบแต่เพียงบ้านพัก ไม่พบโรงงานผลิตถุงมือยางแต่อย่างใด จึงเชื่อว่า ถูกหลอกลวง เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายดังกล่าว จึงได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. จนศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ในฐานะนิติบุคคล และในฐานะส่วนตัวก่อนจับกุมได้ที่บริษัทของผู้ต้องหา ที่ ถ.รัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.

สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล​เท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง กก.1 บก.ปคบ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น