MGR Online - รองฯ จิ เผย ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานเพิ่ม หาแรงจูงใจยิง“น้องวาฤทธิ์” เสียชีวิต ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ไม่พบมีคนอื่นร่วมก่อเหตุ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ มีชุมนุม 2 กลุ่ม แนะนำเลี่ยง 9 เส้นทาง ดำเนินคดีตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นเยาวชน 1 ใน 4 รับเป็นห่วง เน้นประชาสัมพันธ์ ให้ข้อคิดการใช้โซเชียล และเฝ้าระวังคนปลุกปั่น
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า ในวันนี้มีการนัดหมายชุมนุมทางการเมือง 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร เวลา 17.00 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 2. กลุ่มทะลุแก๊ส เวลา 17.30 น. ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง บช.น.เตือนว่า กรุงเทพฯประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ พล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผบช.น.ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเน้นย้ำปฏิบัติภายใต้กรอบของกฏหมาย เส้นทางที่อาจได้ผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนงามวงศ์วาน, ลงโทลล์เวย์งามวงศ์วาน, สะพานข้ามแยกบางเขน, สะพานข้ามแยกพงษ์เพชร, ถนนอโศก-ดินแดง, ถนนวิภาวดีรังสิต, ซอยพหลโยธิน 2, ทางลงด่วนดินแดง, อุโมงค์ดินแดง
สำหรับการชุมนุมของ 4 กลุ่ม เมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) 1. กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน 2. กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร 3. กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เป็นไปด้วยความสงบไม่มีเหตุวุ่นวาย 4. กลุ่มทะลุแก๊ส ไม่พบมีการรวมตัว จากการปฏิบัติตามมาตรการเชิงรุก ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.- 4 ต.ค. ตำรวจได้พิสูจน์ทราบผู้เข้าร่วมชุมนุมแล้วก่อความไม่สงบทั้งสิ้น 13 คดี ผู้ต้องหา 36 ราย พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกครั้งที่ 1 เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว บช.น.ยืนยันจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียก และหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องทุกราย สรุปการดำเนินคดีตั้งแต่เดือน ก.ค. 2563 รวมทั้งสิ้น 766 คดี สอบสวนแล้ว 341 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 425 คดี ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 รวมทั้งสิ้น 400 กว่าคดี ในจำนวนนี้เป็นเด็กและเยาวชน 100 กว่าคน หรือ 25 เปอร์เซ็นต์
แผนรับมือนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 30-31 ต.ค. ที่แยกราชประสงค์ ฝ่ายความมั่นคงจะเน้นการปฏิบัติรักษาพื้นที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด ผู้ชุมนุมจะเข้ามาในพื้นที่ได้หรือไม่นั้น เนื่องจากจุดชุมนุมเข้าได้หลายช่องทางอาจมีผู้ชุมนุมเล็ดลอดเข้ามา ย้ำว่าการชุมนุมดังกล่าวผิดกฎหมายจึงเน้นการประชาสัมพันธ์ไปก่อน หากฝ่าฝืนตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีภายหลัง ส่วนแนวทางป้องกันเด็กและเยาวชนที่ยังเข้าร่วมชุมนุมแล้วกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลข 25 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าน่าเป็นห่วง บช.น.ได้ดำเนินการ ดังนี้ 1. เน้นการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผู้ปกครองและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันสอดส่องดูแล 2. ให้ข้อคิดการรับรู้เรื่องการใช้โซเชียลมีเดีย เนื่องจากผ่านมาเป็นช่องทางยุยงปลุกปั่นให้ร่วมกระทำความผิด 3. มีหน่วยงานตำรวจเฝ้าระวังสืบสวนในช่องทางยุยงปลุกปั่น หากมีพยานหลักฐานจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า กรณีการสืบสวนขยายผลผู้ร่วมก่อเหตุยิง น้องวาฤทธิ์ อายุ 15 ปี ที่หน้า สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา รักษาตัวอยู่ห้องไอซียู รพ.ราชวิถี เป็นเวลา 2 เดือนกว่า กระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อวานนี้ ก่อนหน้านี้ จับกุมผู้ต้องหาแล้ว 1 ราย อยู่ระหว่างฝากขัง จากการสอบสวนยังไม่มีผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง จะออกหมายเรียกแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” เพิ่มเติม ส่วนสาเหตุแรงจูงใจก่อเหตุเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ทราบการกระทำความผิดและแรงจูงใจที่แน่ชัด ในวันนี้ เวลา 17.00 น. กลุ่มเยาวชนปลดแอก นัดรวมตัวทำกิจกรรมไว้อาลัยที่หน้า สน.ดินแดง ได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร หากก่อเหตุวุ่นวายก็พร้อมเข้าระงับเหตุทันที
ทั้งนี้ บช.น.แสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของ น้องวาฤทธิ์ ตนในนาม บช.น.และตำรวจทุกคนขอยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที อยากเรียนให้ทราบว่ากรณี น้องวาฤทธิ์ ถือว่าเป็นตัวอย่างสำคัญที่สร้างความสูญเสีย นำมาสู่ความเศร้าโศกเสียใจให้กับพ่อแม่ ญาติพี่น้อง คนในสังคม และตำรวจทุกคน อยากวิงวอนการกระทำใดๆ ก็ตาม ขอให้ปฏิบัติอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายอย่าใช้ความรุนแรง ก่อเหตุความไม่สงบ หรือก่อความวุ่นวาย ตนขอให้กรณีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์สุดท้ายที่จะไม่เกิดความสูญเสียเช่นนี้อีก บช.น.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีความหวังเช่นนั้น โดยขอความร่วมมือจากพี่น้องทุกหมู่เหล่า
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า การยุยงปลุกปั่นทางโซเชียลที่ผ่านมา ตำรวจพยายามสร้างการรับรู้ให้ทราบว่า สิ่งใดเป็นการแสดงออกทางความคิดที่มีเสรีภาพ และสิ่งใดเป็นการก้าวล่วงไปกระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ อยากให้เด็กและเยาวชนศึกษาข้อมูลให้ดี หรือดูคดีเก่าๆ ที่เกิดขึ้น อย่าตกเป็นเครื่องมือของใคร การแสดงออกควรอยู่ในกรอบตามสิทธิของตนเองที่มีไม่ไปก้าวก่ายสิทธิผู้อื่น และก้าวล่วงการกระทำความผิดของกฎหมาย บางคนคิดว่าตัวเองแสดงออกในลักษณะแบบนี้ได้ แต่จริงแล้วผิดกฎหมาย