จับหนุ่มใหญ่ขับเบนซ์หรู วิ่งราวทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในเวลากลางคืน พร้อมด้วยของกลาง บุหรี่ 2 ซอง และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO พร้อมกล่อง 1 เครื่อง ผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุไปเพราะความเมาและรั่ว
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 21 ต.ค. 64 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์, พ.ต.ท.ภาสกร ไขยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ต.บรรจบ ราชกิจ สว.สส. ร่วมกันจับกุมตัว นายปภาวิน หรือ กอล์ฟ ไตรโพธิ์ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 89/11 หมู่ 5 ต.บางรักน้อย อ.เมือง พร้อมด้วยของกลาง บุหรี่ ยี่ห้อ มาร์ลโบโร่แดง ซองแข็ง จำนวน 1 ซอง บุหรี่ ยี่ห้อ แอลเอ็ม สตอร์ม ซองแข็ง จำนวน 1 ซอง รถยนต์ ยี่ห้อ เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น ซี 200 ซีแอล สีเทา คันหมายเลขทะเบียน ธย 2182 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน เสื้อคลุมแบบมีฮูด สีแดงขอบเหลือง ยี่ห้อ บอดี้โกลฟ จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ขาสามส่วน สีน้ำเงิน ยี่ห้อ stike jeans จำนวน 1 ตัว หมวกแก็ป สีดำ ยี่ห้อ ไนกี้ จำนวน 1 ใบ รองเท้าผ้าใบสีดำ ยี่ห้อ skechers จำนวน 1 ใบ โดยกล่าวหาว่า วิ่งราวทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม จับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถข้างอาคารที่ 6 คอนโดมิเนียมเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 64 เวลาประมาณ 17.15 น. คนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ภายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาปากซอยรัตนาธิเบศน์10 ถ.รัตนาธิเบศน์ ต.บางกระสอ อ.เมือง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 10.25 น. บริษัท ซีพี ออลล์ (มหาชน) โดย นายสุรโชค คล้ายอุดม อายุ 24 ปี ที่อยู่ 124/37 หมู่ที่ 4 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี ผู้รับมอบอำนาจ มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ กรณีวันที่ 17 ตุลาคม 2564 ประมาณ 05.04 น. ขณะที่ นายสุรโชค คล้ายอุดม ทำงานอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาปากซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
ขณะกำลังให้บริการลูกค้าอยู่ตรงที่เคาน์เตอร์ชำระเงินค่าสินค้าอยู่นั้น ได้มีคนร้ายทำทีเป็นลูกค้า เดินเข้ามาที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ถือตะกร้าเดินเลือกซื้อสิ้นค้า ต่อมาชายคนดังกล่าวได้นำสินค้ามาชำระเงินที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน ซึ่งขณะนั้น นายสุรโชค คล้ายอุดม กำลังทำงานให้บริการอยู่ตรงจุดดังกล่าว และนายสุรโชค ใช้เครื่องสแกนคิดราคาสินค้าอยู่นั้น ชายดังกล่าวได้สั่งซื้อบุหรี่ ยี่ห้อมาร์ลโบโร่แดง ซองแข็ง จำนวน 1 ซอง และบุหรี่ ยี่ห้อ แอลเอ็ม สตอร์ม จำนวน 1 ซอง นายสุรโชค คล้ายอุดม จึงหยิบบุหรี่ยื่นให้ชายดังกล่าว เมื่อชายดังกล่าวได้บุหรี่แล้ว ได้ออกอุบายทำทีสั่งบุหรี่เพิ่มอีก ขณะที่นายสุรโชค คล้ายอุดม ได้หันหลังหยิบบุหรี่ให้ชายคนดังกล่าวเพิ่มนั้น ชายคนดังกล่าวได้หยิบเอาโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ oppo พร้อมกล่อง จำนวน 1 เครื่อง ที่วางอยู่หน้าเคาน์เตอร์ พร้อมบุหรี่จำนวน 2 ซองข้างต้น ที่คนร้ายได้เก็บไว้แล้ว จากนั้นวิ่งหลบหนีออกจากร้านไป โดยได้วิ่งมาขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านที่เกิดเหตุ แล้วขับรถยนต์หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนในคดีนี้ โดยได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุ จึงพบพฤติกรรมของคนร้าย กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ สีเทา ล้อแม็กซ์สีดำ ไม่ทราบทะเบียน มาจอดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ลงจากรถลักษณะการแต่งกายตามที่กล่าวข้างต้น และได้เดินเข้าไปภายร้านและได้วิ่งราวเอาทรัพย์สิน ประกอบด้วย บุหรี่ ยี่ห้อมาร์ลโบโร่แดง ซองแข็ง จำนวน 1 ซอง และ บุหรี่ ยี่ห้อ แอลเอ็ม สตอร์ม จำนวน 1 ซอง และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO พร้อมกล่อง จำนวน 1 เครื่อง จากนั้นได้ขับขี่รถยนต์ดังกล่าวหลบหนีไป โดยมุ่งหน้าไปทางแยกแคราย ต่อมาได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อทราบเส้นทางหลบหนี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 05.11 น.คนร้ายชับขี่รถผ่านบนถนนงามวงศ์วาน มุ่งหน้าแยกพงษ์เพชร
ตรวจสอบกล้องวงจรปิดร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาปากซอยงามวงศ์วาน ทางเจ้าหน้าทีตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้ โดยผู้ก่อเหตุสารภาพว่า ได้นำโทรศัพท์ไปขายที่ร้านโทรศัพท์ใกล้ด้านหลังมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้เงินมาจำนวน 6,000 บาท จึงยึดสิ่งของทั้งหมดไว้เป็นของกลาง และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.เมษนนท์ กล่าวว่า คนร้ายวิ่งราวทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อที่รัตนาธิเบศร์ 10 ใกล้ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพียง 200 เมตร แต่อยู่ฝั่งตรงข้าม ถือว่ามาก่อเหตุทำให้คดีเป็นที่น่าสนใจ จากการไล่สืบสวนอย่างเข้มงวดและไล่กล้องวงจรปิด ทำให้ทราบที่อยู่คนร้าย เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าที่ก่อเหตุไป เพราะความเมาและรั่ว