ศูนย์ข่าวศรีราชา - รวบแล้ว! หนุ่มชิงทอง 7 บาทจากร้านทองในห้างเขตตัวเมืองชลบุรี แต่พลาดท่าทำโทรศัพท์มือถือตกไว้จนตำรวจตามรวบได้ที่ บขส.เชียงใหม่ ขณะเตรียมหลบหนี นำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เผยติดหนี้พนันออนไลน์
วันนี้ (13 ต.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการจับกุมนายวายุ หรือแจ็ค รัตนวิชัย อายุ 25 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด อดีตนักฟุตบอลตัวมหาวิทยาลัย ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ในห้างเพชรทองออโรร่า ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยได้สร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น และสร้อยคอหนัก 3 บาท 1 เส้น มูลค่ารวมกว่า 196,000 บาท ก่อนวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์ที่เตรียมไว้หลบหนีไป แต่ด้วยความรีบร้อนจึงทำโทรศัพท์มือถือตกในจุดเกิดเหตุ ซ้ำกล้องวงจรปิดภายในร้านยังจับภาพใบหน้าได้อย่างชัดเจนนั้น
ล่าสุด เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ที่สถานีขนส่งเชียงใหม่อาเขต ใน อ.เมืองเชียงใหม่ ขณะกำลังจะขึ้นรถโดยสารหลบหนี พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินของกลางที่เหลือเป็นสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น และเงินสดที่ได้จากการขายสร้อยคอรวม 73,000 บาท
โดยในเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่ามาจากปัญหาหนี้สินจากการกู้ยืมเงิน กยศ. อีกทั้งยังเป็นหนี้การพนันออนไลน์จนต้องนำที่นาของครอบครัวไปจำนอง กระทั่งสุดท้ายไม่มีเงินผ่อนชำระจึงเกรงว่าที่นาถูกยึดไป
หลังจากนั้น พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนที่ยืนดูเหตุการณ์
โดยเริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าร้านที่คนร้ายทำทีมาขอดูสร้อยทองจากพนักงานขายและอ้างว่าต้องการซื้อไปเป็นของขวัญวันเกิดให้แฟน กระทั่งสบโอกาสจึงวิ่งหลบหนี
ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังได้ฝากเตือนไปยังเยาวชนไม่ให้หลงผิดเล่นพนันออนไลน์เช่นเดียวกับตนเอง และยังบอกว่าก่อนลงมือก่อเหตุได้ใช้เวลาอยู่ในห้างนานกว่า 2 ชั่วโมงจึงได้ตัดสินใจลงมือ
โดย พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า ร้านทองอยู่บริเวณใกล้ปากทางเข้าออกของห้าง ถือเป็นจุดสุ่มเสี่ยงของการก่อเหตุอาชญากรรม ดังนั้น ทางร้านจะต้องมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
ขณะที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ จะต้องมีส่วนร่วมในการช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยติดกล้องวงจรปิดทั้งในและนอกห้าง ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้มาจากความร่วมมือของตำรวจหลายฝ่ายที่ช่วยกันแกะรอยคนร้ายจนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด