หนุ่มคลั่งเมายาเสพติด จุดไฟเผาบ้านพักแล้วขังตัวเองอยู่ภายใน ยิงขาพ่อด้วยปืนดัดแปลงใส่เหล็กเส้นไว้ใช้ยิงปลา ก่อนอาศัยช่วงชุลมุน กระโดดลงจากห้องพัก หลบหนีไป
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 11 ต.ค. พ.ต.ต.ทนงศักดิ์ ปลั่งกลาง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่ง จุดไฟเผาบ้านพักและทำร้ายบุพการีของตนเอง ภายในบ้านพักคนงานโรงหล่อเพาะเหล็ก ตั้งอยู่เลขที่ 145 หมู่ 7 ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 18 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ตำรวจฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นโรงเหล็กเก่าปัจจุบัน ยุติการดำเนินกิจการไปแล้ว จากการตรวจสอบบริเวณบ้านพักคนงาน ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารสูง 2 ชั้น และยังมีลูกจ้างคนเก่าคนแก่ของโรงงานอาศัยอยู่ไม่กี่คน พบกลุ่มควันและแสงเพลิง พวยพุ่งออกมาจากห้องพักบริเวณชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่สายตรวจและหน่วยกู้ภัย พยายามขึ้นไประงับเหตุเพลิงไหม้ แต่ปรากฏว่า มี นายเอกชัย แสงทองดี อายุ 31 ปี หนึ่งในผู้พักอาศัย ที่อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งเหมือนคนมึนเมายาเสพติด ถืออาวุธปืนยาวด้ามไม้ ดัดแปลงใส่เหล็กเส้นที่เอาไว้ใช้ยิงปลา ข่มขู่ปิดประตูห้องไว้ไม่ให้ใครเข้าไปภายใน เจ้าหน้าที่จึงต้องประสานญาติของ นายเอกชัย เข้ามาเพื่อร่วมไกล่เกลี่ย
ขณะนั้น นายสูรย์ แสงทองดี อายุ 65 ปี บิดาของ นายเอกชัย ได้อาสาขึ้นไปบนห้องพัก เพื่อเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำงานได้สะดวก ปรากฏว่า ขณะที่ นายสูรย์ เปิดประตูได้นั้น กลับถูก นายเอกชัย ใช้ปืนยิงปลา ลั่นไกส่งเหล็กแหลมพุ่งเข้าใส่ต้นขาข้างซ้ายทันที จากนั้น นายเอกชัย ได้อาศัยช่วงชุลมุน กระโดดลงจากห้องพัก หลบหนีไปทางท้ายซอยสุขสวัสดิ์ 18 ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงจนสงบ และช่วยกันนำตัว นายสูรย์ ส่ง รพ.ราษฎร์บูรณะ ให้แพทย์ทำการผ่าเหล็กยิงปลาที่ฝังอยู่ในต้นขาอย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวน นางณัชชา แสงทองดีอายุ 54 ปี มารดาของนายเอกชัย กล่าวว่า ปัจจุบันภายในห้องพักคนงานมีครอบครัวของตน ซึ่งประกอบด้วย สามีซึ่งเป็นลูกจ้างเก่าแก่ของโรงเหล็ก และ นายเอกชัย อาศัยอยู่เพียง 3 คน ในอดีต นายเอกชัย มีประวัติเสพยาเสพติดอย่างหนัก และมักมีอาการคลุ้มคลั่งทุบตีตนและสามีเป็นประจำ โดยในวันนี้เจ้าตัวมีอาการกำเริบตั้งแต่ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ตนและสามี จึงพากันออกจากห้องพัก เนื่องจากเกรงว่าจะถูกลูกชายทำร้ายร่างกาย กระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายเอกชัย เริ่มมีอาการหนักขึ้น มีการทำลายข้าวของขว้างปาขวด สิ่งของ และขนเสื้อผ้าเข้าไปในห้องข่มขู่ว่าจะจุดไฟ กระทั่งเรื่องเกิดบานปลายขึ้นดังกล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้เชิญตัว นางณัชชา ผู้เป็นมารดา ไปสอบปากคำอย่างละเอียด เพิ่มเติมที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ส่วนอาการของ นายสูรย์ ผู้เป็นพ่อทราบว่าปลอดภัยดีแล้ว สำหรับแนวทางการติดตามจับกุม นายเอกชัย มาดำเนินคดี ขณะนี้ได้ประสานฝ่ายสืบสวน กับเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้ง สน.ราษฎร์บูรณะ และโรงพักข้างเคียงให้ช่วยกันตามล่าแล้ว เชื่อว่า จะสามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ในไม่ช้า