MGR Online - รมว.ยุติธรรม เปิดงานปล่อยนักโทษเด็ดขาดเข้าทำงานกับผู้ประกอบการ “สมุทรปราการโมเดล” รุ่นแรก เน้นย้ำขอตั้งใจพัฒนาตนเอง ไม่หวนกลับมาทำผิดซ้ำ
วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 10.30 น. ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดออกทำงาน โครงการสร้างงานสร้างอาชีพฝึกทักษะการทำงานในภาคอุตสาหกรรม “สมุทรปราการโมเดล” และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมราชทัณฑ์กับผู้ประกอบการ
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ มีภารกิจสำคัญยิ่งในการแก้ไข พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้โอกาสผู้กระทำความผิดได้ปรับปรุงตัวเอง ส่งเสริมให้มีการสร้างงาน สร้างอาชีพถือเป็นการพัฒนา และใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้เต็มศักยภาพสูงสุด เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถกลับไปอยู่ร่วมกับสังคมอย่างเป็นสุข และไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีก หนึ่งในโครงการเพื่อตอบสนองภารกิจดังกล่าว คือ โครงการสร้างงานสร้างอาชีพ ฝึกทักษะการทำงานในภาคอุตสาหกรรม เรือนจำกลางสมุทรปราการหรือสมุทรปราการโมเดล ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้นำร่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมและผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น โดยใช้กลไกการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษคุมความประพฤติ และติดกำไลอีเอ็ม (EM) โดยผู้ประกอบการเป็นผู้จัดหาที่พักพิง และรับเป็นผู้อุปการะดูแลตลอดการทำงาน มีค่าจ้างและสวัสดิการตามกฎหมายแรงงาน
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 2564 ได้รับผู้ร่วมโครงการไปทำงานแล้ว 114 คน เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์เดียวกันของทุกภาคส่วนในการสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ด้วยการเป็นสังคมแห่งการให้โอกาส ให้อาชีพแก่ผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ จึงได้จัดพิธีลงนามในบันทึกความร่วมมือกับผู้ประกอบการขึ้น และกรมราชทัณข์ยังได้ผสานความร่วมมือกับกรมคุมประพฤติ และผู้ประกอบการ ร่วมกันจัดพิธีปล่อยตัวผู้พ้นโทษออกไปทำงาน โดยติดกำไล EM 41 คน จาก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท รีเทล บิซิเนส โซลูชั่นส์ จำกัด (RBS) และบริษัท ไต้ทงแมชินเนอรี่ จำกัด รวมผู้เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว ทั้งสิ้น 145 คน
ด้าน นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า เรามีการประสานงานใกล้ชิด มีกำไลติดตามตัวคุมประพฤติ มีการกำหนดขอบเขต หากฝ่าฝืนจะมีการแจ้งไปยังศูนย์และส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครคุมประพฤติช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมา เรามีผู้สวมกำไลไปแล้ว 74,000 กว่าราย ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร ขอให้ผู้ประกอบการทุกท่านสบายใจได้
นายวิริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การนิคมอุตสาหกรรมพร้อมที่จะให้การสนับสนุนโครงการ การสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้พ้นโทษเป็นเรื่องที่ดี และสามารถทดแทนแรงงานต่างชาติที่ขาดแคลนได้
ทางด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม ได้มุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมและความสงบสุขในสังคม ภารกิจด้านการควบคุมและพัฒนาพฤตินิสัยผู้กระทำผิดนับเป็นภารกิจสำคัญในการสร้างสังคมให้สงบสุขและปลอดภัย โดยกรมราชทัณฑ์ได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนา แก้ไข และให้โอกาสแก่ผู้กระทำผิดในการกลับตนเป็นพลเมืองที่ดี ให้มีการศึกษา อบรมศีลธรรมคุณธรรม การฝึกอาชีพที่หลากหลายทั้งเกษตร ปศุสัตว์ การบริการท่องเที่ยวตามความถนัดและตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ผลักดันให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพให้มีความมั่นคง ยั่งยืน ตนมีแนวคิดให้ศึกษาการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เพื่อสร้างพื้นที่และเปิดโอกาสให้กับผู้เคยพลั้งพลาดได้มีชีวิตและอนาคตใหม่ที่ดีเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ เป็นขุมกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และช่วยลดความแออัดในเรือนจำได้อีกทางหนึ่งด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในขณะที่รอการสร้างนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ ตนจึงได้มอบกรมราชทัณฑ์ทดลองนำนักโทษความประพฤติดี ออกไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมคู่ขนานกันไป เพื่อนำร่องและสร้างความเชื่อมั่น โดยคนที่ได้รับสิทธิต้องเป็นผู้ต้องขังชั้นดีไม่ใช่พวกบัวใต้น้ำหรือกลุ่มคดีร้ายแรงที่ต้องเฝ้าระวัง ความประทับใจในแรงงานที่กรมราชทัณฑ์เตรียมความพร้อมไว้แล้วการลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยความร่วมมือในวันนี้ นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ในการเดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม และความสงบสุขในสังคมร่วมกัน
“การส่งเสริมทักษะทางอาชีพจะเปรียบเสมือนการให้โอกาสและเป็นประตูบานแรกที่สำคัญให้แก่ผู้พ้นโทษ ได้มีโอกาสในการทำงาน ยกระดับความรู้ความสามารถ ของผู้พ้นโทษที่ผ่านการฝึกฝนจนเกิดทักษะ ความชำนาญไปสู่การเป็นแรงงานที่มีคุณภาพของประเทศได้วันนี้ นอกจากการลงนามความร่วมมือกันแล้ว ยังเป็นวันสิ้นสุดของการใช้ชีวิตในเรือนจำ และเป็นก้าวแรกสู่อิสระภาพของผู้ได้รับการพักการลงโทษจำนวนหนึ่งที่มีความประพฤติดี” รมว.ยุติธรรม กล่าว
จากนั้น เป็นพิธีปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดออกทำงานโครงการสร้างงานสร้างอาชีพฝึกทักษะการทำงานในภาคอุตสาหกรรม (พักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ) สมุทรปราการโมเดล โดย นายสมศักดิ์ และคณะ ได้ร่วมกดปุ่มปล่อยตัว ติดกำไล EM และได้พบปะพูดคุย ให้กำลังใจแก่ผู้พ้นโทษ และญาติที่มารอรับ ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ผ่านโครงการนี้ ขอให้จงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาตนเอง อยู่ในระเบียบของสังคม เป็นพลเมืองดีของชาติ เพื่อสร้างอนาคตใหม่ที่ดี โดยไม่กลับมากระทำผิดซ้ำ อย่าทำให้ผิดหวัง เรามีฝีมือขอให้ใช้อย่างเต็มที่ เพื่อตัวเองและเพื่อนๆ ที่จะเป็นรุ่นต่อไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการลักษณะเช่นนี้จะเป็นตัวแบบความสำเร็จเพื่อจะได้ขยายผลการดำเนินการออกไปในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ต่อไป” โดยทางกลุ่มญาติผู้พักโทษ ได้กล่าวขอบคุณนายสมศักดิ์ที่ได้ให้โอกาสและดูแลญาติของตนให้ดีที่สุด ส่วนทางกลุ่มผู้พักโทษ กล่าวว่า “ขอบคุณนายสมศักดิ์ที่ให้โอกาส สัญญาว่าจะเป็นคนดี ตั้งใจทำงาน ไม่กลับมาทำผิดอีก”