ศาลธนบุรีไม่ถอนประกัน “สาวตี้ พะเยา” แต่ตักเตือน-กำชับให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขศาล

ศาลอาญาธนบุรี ไม่เพิกถอนประกัน “สาวตี้ พะเยา” แต่ว่ากล่าวตักเตือน สั่งกำชับให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขศาล หลังถูกยื่นร้องถอนประกัน เหตุปราศรัยแรง อาจพาดพิงสถาบันเบื้องสูง

เมื่อเวลา (21 ก.ย.) ศาลอาญาธนบุรีได้นัดไต่สวนคำร้องเพิกถอนประกันในคดีที่พนักงานอัยการ ยื่นคำร้องขอถอนประกัน น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ “สาวตี้ พะเยา” นักศึกษา ม.พะเยา และ แนวร่วมม็อบกลุ่มราษฎร จำเลย ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2563 น.ส.วรรณวลี ได้ปราศรัยดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงในการชุมนุมบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งจำเลยได้รับการประกันตัว ในวงเงิน 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำผิดซ้ำ อันจะทำให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันกษัตริย์, ห้ามชุมนุมก่อความวุ่นวาย, ห้ามออกนอกประเทศ

ต่อมาหลังได้ปล่อยชั่วคราว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุปผาราม ได้แจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2564 เวลาประมาณ 17.00-20.30 น. น.ส.วรรณวลี ได้เข้าร่วมในกิจกรรมชุมนุม “ราษฎรยืนยันดันเพดาน” ซึ่งเป็นการชุมนุมโดยไม่ได้ขออนุญาตจากสำนักงานเขตพื้นที่ มีการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต มีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 700 คน การบริหารจัดการผู้ร่วมชุมนุมแออัดใกล้ชิด ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค โดย น.ส.วรรณวลี ได้ปราศรัยเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และกฎหมายมาตรา 112 อันเป็นการผิดเงื่อนไขการประกันตัว อัยการจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย

โดยกำหนดนัดไต่สวนในวันนี้ พนักงานอัยการ, ร.ต.อ.วสันต์ดิลก คำโสภา พนักงานสอบสวน ผู้ร้อง, น.ส.วรรณวลี จำเลยและทนายความ มาศาล จากนั้นศาลได้สอบถาม น.ส.วรรณวลี จำเลย และทนายจำเลยเกี่ยวกับคำร้องขอเพิกถอนการขอปล่อยชั่วคราว น.ส.วรรณวลี จำเลยและทนายความ แถลงรับว่า วันที่ 24 มิ.ย. 2564 น.ส.วรรณวลี จำเลยได้เข้าร่วมกิจกรรมที่บริเวณลานสกายวอล์กแยกปทุมวัน และมีการพูดปราศรัยต่อผู้ชุมนุมจริง แต่ข้อความตามที่ปรากฏในบันทึกการถอดเทปบางส่วนไม่ถูกต้อง และข้อความทั้งหมดที่จำเลยพูดนั้น พูดในลักษณะแสดงความคิดเห็น มิได้มีเจตนาดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงแต่อย่างใด

ศาลสอบถามพนักงานอัยการโจทก์แล้วพนักงานอัยการโจทก์ แถลงว่า เหตุที่โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวจำเลย เนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจได้นำเรื่องดังกล่าวมาเสนอต่อโจทก์และวันนี้โจทก์นำ ร.ต.อ.วสันต์ดิลก มาแถลงศาลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในส่วนนี้ด้วย จากนั้น ร.ต.อ.วสันต์ดิลก แถลงต่อศาลว่าผู้บังคับบัญชาเป็นผู้มอบหมายให้ตนมาติดต่อกับพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการขอให้ศาลเพิกถอนการประกันตัวจำเลย ขณะที่บันทึกการถอดเทปกลุ่มผู้ชุมนุมแนบท้ายคำร้องของพนักงานอัยการนั้นผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ถอดเทป ตนไม่ได้เข้าร่วมสังเกตุการณ์ในการชุมนุมตรงบริเวณดังกล่าว

แต่หลังจากวันที่ 24 มิ.ย. 2564 เจ้าพนักงานตำรวจก็ไม่ได้รับรายงานว่า น.ส.วรรณวลี จำเลย เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองอื่นใดอีก ศาลสอบถามจำเลย เกี่ยวกับข้อความในบันทึกการถอดเทปดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง น.ส.วรรณวลี จำเลยรับว่า ได้พูดข้อความดังกล่าวจริง แต่ต้องการพูดเพียงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกลุ่มคนที่ใส่เสื้อเหลืองเท่านั้นมิได้มีเจตนาที่จะดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทสถาบันเบื้องสูง แต่จำเลยรับว่าหลังจากนี้จะไม่กล่าวถ้อยคำหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอีก หากยังกระทำการดังกล่าว ยอมให้ศาลเพิกถอนสัญญาประกันได้ทันที

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า น.ส.วรรณวลี จำเลย ยังเป็นนักศึกษาและหลังจากวันที่ 24 มิ.ย. 2564 ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นการผิดเงื่อนไขของสัญญาประกันซ้ำอีก เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและให้โอกาสจำเลยในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ จึงเพียงแต่ว่ากล่าวตักเตือนให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลโดยเคร่งครัด มิฉะนั้น อาจถูกเพิกถอนสัญญาประกันได้