ผบช.สตม.แถลงจับกุมหนุ่มชาวจีนใช้รอยประทับตราเข้าเมืองปลอม พบเกี่ยวข้องขบวนการลักลอบนำชุดตรวจ ATK เข้าไทย
วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1 พ.ต.อ.รุ่งศักดิ์ เเสงเสียงฟ้า รอง ผบก.ตม.2 ร่วมเเถลจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญ ดังนี้
คดีแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.1 และ บก.ปคม. ร่วมกันจับกุมนายไห่ หนิง สัญชาติจีน อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาใช้รอยตราประทับเข้าเมืองปลอม สืบเนื่องจากตำรวจ ตม. และ ปคม. ได้ทำการสืบสวนเเละได้ทราบว่า มีชายชาวจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลักลอบนำเข้าชุดตรวจ ATK โควิด-19 จำนวนนับล้านชิ้นซึ่งทำเป็นขบวนการราว 10 คน โดยมีชาวไทยเกี่ยวข้องด้วย เเละชายชาวจีนผู้นี้ยังอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฏหมาย ภายหลังทราบตำรวจจึงบุกจับกุมทราบชื่อคือ นายไห่ หนิง จากการจับกุมไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายใดๆ เเต่พบความผิดปกติในส่วนของหนังสือเดินทางที่มีการใช้รอยประทับเข้าเมืองปลอม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจนวันอนุญาตสิ้นสุด และไม่ได้ขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร
เบื้องต้นแจ้งข้อหา นายไห่ หนิง ฐานเป็นคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวอยู่โดยการอนุญาตสิ้นสุด และปลอมและใช้รอยตราประทับของหน่วยงานราชการปลอม นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนอีกคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.1 จับกุม นายโมฮัมเหม็ด สัญชาติอียิปต์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจสอบพบว่านายโมฮัมเมด เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเเละพำนักอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาติสิ้นสุดมาเป็นเวลากว่า 1 ปีเเล้ว เเละหลังจากการตรวจสอบภายหลังทราบว่า นายโมฮัมเหม็ด เคยถูกจับกุมตัวมาเเล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2561 จากพฤติกรรมเป็นมาเฟียอาหรับ ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในบริเวณซอยนานาให้นักท่องเที่ยวราตรีชาวต่างชาติ ซึ่งในการจับกลุ่มครั้งนั้นนายโมฮัมหมัดก่อนถูกส่งกลับประเทศได้มีการนำหนังสือเดินทางอีกฉบับมาเเสดงเพื่อต้องการกลับมาประเทศไทยอีกครั้งพอครั้งถึงต้นปี 2563 ก่อนการปิดประเทศ นายโมฮัมเหม็ด ก็ได้ปลอมเเปลงชื่อ-สกุล เปลี่ยนวันเดือนปีเกิด สถานที่เกิด เเปลงสีผมเเละหนวดเครา พร้อมใช้หนังสือเดินทางสัญชาติอียิปต์เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ ในเบื้องต้นต้นเจ้าหน้าที่เเจ้งข้อกล่าวหาเป็นบุคคลต้างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เเล้วจึงส่งพนักงานสืบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย