สตม.จับผู้ต้องหาปลอมเป็นแอดมินเพจ “djpoom” หลอกลวงเหยื่อโอนเงินรับบริจาคช่วยโควิด ที่ได้จากการไลฟ์สดขายสินค้า
วันนี้ (15 ก.ย.) ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงจับกุม นายอดิศร (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ในข้อหา “ฉ้อโกง, ลักทรัพย์และเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่นซึ่งมีมาตรการในการป้องกันโดยมิชอบ”
สืบเนื่องจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย เจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ว่าได้มีคนร้ายเข้ามาทำการแฝงตัวเป็นแอดมินเพจ “djpoom” และทำการหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินที่ทางเพจ “djpoom” ต้องการนำไปบริจาคไป และมีคนร้ายได้ปลอมเป็นเพจในเฟซบุ๊กที่ทำการไลฟ์สด ขายสินค้า จากนั้นจะทำการหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหายและทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายไปเข้าบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และโอนต่อไปยังบัญชีที่คนร้ายต้องการจนมีผู้เสียหายหลายราย
ต่อมาทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. ศปชก.สตม. และ ศปอส.ตร. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า คนร้ายในคดีนี้คือ นายอดิศร จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานและทำการออกหมายจับ ก่อนสืบสวนจนทราบว่า นายอดิศร ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักใน จ.นนทบุรี จึงได้ทำการขอหมายค้นและเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ โดยจากการตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ สามารถตรวจยึดคอมพิวเตอร์และสมุดบัญชีหลายรายการ ที่ผู้ต้องหานำมาใช้ในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการสร้างเพจเฟซบุ๊ก “รับซื้อบัญชีธนาคาร-บัญชี true wallet รับซื้อในราคาสูง” ต่อมาได้มี นายวิรุณ ได้ติดต่อเข้ามายังเพจ และทำการขายบัญชีธนาคารจำนวน 2 บัญชี คือ บัญชีธนาคารกรุงไทย และบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมทั้งได้ขายบัญชี กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 2 บัญชี ในราคา 7,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ นายอดิศร ได้บัญชีมาแล้วก็ได้เข้าไปแฝงตัวปลอมเป็นแอดมินของเพจ “djpoom” ที่กำลังไลฟ์สดในการหาเงินมาร่วมบริจาคช่วยในสถานการณ์โควิด-19 และทำการส่งเลขที่บัญชีที่ซื้อมาจากนายวิรุณ ไปยังผู้เสียหาย และให้ผู้เสียหายทำการโอนเงินมาให้
อีกทั้ง นายอดิศร ยังมีพฤติการณ์ในการปลอมเพจเฟซบุ๊ก ที่กำลังไลฟ์สดขายสินค้า และจากนั้นจะทักไปหาผู้เสียหายทางข้อความ และจะหลอกผู้เสียหายโอนเงินมาให้โดยอ้างว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม รวมทั้งหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลธนาคารจากผู้เสียหายและทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายไป ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลพบว่ามีผู้เสียหายร่วม 100 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งนายอดิศร ยอมรับว่าได้ทำมาแล้วหลายครั้งและจากการตรวจสอบพบว่าเคยเป็นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีฉ้อโกงมาก่อน