xs
xsm
sm
md
lg

ผู้กำกับโจ้ ต้องสงสัย ฆ่าพ่อค้ายา (ตอน1)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 24 ส.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ ผู้กำกับโจ้ ต้องสงสัย ฆ่าพ่อค้ายา (ตอน1)



“ผมจะไม่ขึ้นกับผู้บังคับการจังหวัด”

นี่เป็นคำพูดประโยคแรกของ “ผู้กำกับโจ้” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) เมืองนครสวรรค์ เมื่อช่วงปลายปี 2563 เป็นคำประกาศกร้าวที่หมายส่งสัญญาณให้ตำรวจทั่วเมืองปากน้ำโพรู้ว่า ผู้กำกับเมืองคนใหม่มี “แบ็กใหญ่” ที่เหนือกว่า “ผู้การจังหวัด”

คำประกาศนี้ ดูเหมือนทำให้ “ผู้ใต้บังคับบัญชา” ประทับใจ ในตัวตนของนายคนใหม่ เพราะสะท้อนถึงความกล้า ห้าวหาญ บวกกับ “โปรไฟล์หรู” ที่เป็นตำรวจหนุ่มอนาคตไกล มีชื่อเสียงมีหน้ามีตาในสังคม และยังมีฐานะร่ำรวยอีกด้วย

พากันเคลิบเคลิ้มหลงเชื่อไปว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ผู้กำกับป้ายแดงคนนี้ จะมาเป็น “เจ้านายน้ำดี” มีความประพฤติดีงาม ไม่รีดไถ หรือยุ่งเกี่ยวเรียกหาส่วยกับอบายมุขใดๆ

แต่แล้ว ไม่นานความหวังของตำรวจในท้องที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ก็พังทลาย เมื่อ “ผู้กำกับโจ้” ผู้มาใหม่ ไม่ต่างจาก “ทองชุบ” ที่ลอกคราบเปลือยตัวตนตั้งแต่ต้น มีพฤติกรรม “มือหนัก” ยิ่งกว่าคนเก่า ก่อนหน้านี้อย่างเทียบไม่ติด

เมื่อออกนโยบาย “เก็บละเอียด” ทุกช่องทางที่มีผลประโยชน์ โดยเฉพาะคำสั่งตั้งด่านในพื้นที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ทุกรูปแบบทั้งด่านจราจร ,ด่านตรวจค้นยาเสพติด และด่านความมั่นคงอื่นๆ ไม่สนใจคำสั่งจาก “ส่วนกลาง” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ห้ามไม่ให้ตำรวจตั้งด่าน หรือกระทั่งในช่วงโควิด-19 ระบากอย่างหนัก ในพื้นที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ก็ยังไม่เลิกนโยบายตั้งด่าน

กระทั่งถึงข้อกล่าวหาล่าสุดที่เป็นประเด็นร้อนฉ่าไปทั้ง “วงการสีกากี” เมื่อ “ผู้กำกับโจ้” ถูก “บิ๊กหนุ่ม” พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 (ผบช.ภ.6) เซ็นคำสั่งย้ายด่วนจากพื้นที่ไปศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 โดยให้ “ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม”

เนื่องจาก ถูกร้องเรียนจาก “ตำรวจชั้นผู้น้อย” ผู้ใต้บังคับบัญชาว่า “ผู้กำกับโจ้” พลั้งมือฆ่าผู้ต้องหายาเสพติดรายหนึ่งเสียชีวิตในระหว่างควบคุมตัวอยู่ภายใน สภ.เมืองนครสวรรค์

จดหมายร้องเรียนเล่าเป็นฉากๆถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 ส.ค.64 หลัง “ชุดปราบปรามยาเสพติด” จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 ราย เป็นชายและหญิง พร้อมยาบ้าประมาณหลักแสนเม็ด ก่อนนำตัวมาที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้แยกผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่เป็นแฟนกันมาเพื่อทำการสอบปากคำ

จน “หัวหน้าชุด” ที่เป็นผู้เจรจากับ “ผู้ต้องหาชาย” ได้แจ้ง “ผู้กำกับโจ้” ว่า “นายครับ มันยอมจบที่ 1 ล้าน” ปรากฎมีเสียง “นาย” ตะโกนตอบกลับลั่นโรงพักว่า “ล้านเดียวจะไปพออะไร ….เรียกมัน 2 ล้านสิวะ …..พวกมึงไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวกูเอง”

จากนั้น “นาย” ก็ “ลงมือเอง” เข้าไปหา “ผู้ต้องหาชาย” พร้อมกับเอาถุงดำคลุมหัว “ผู้ต้องหาชาย” หมายทรมานให้ยอมจ่ายเงินเพิ่มอีก 1 ล้านบาท แต่กลับเป็นเหตุให้ “ผู้ต้องหาชาย” จนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต

จากนั้นทำการลบกล้องวงจรปิด และนำศพส่งโรงพยาบาลและบังคับ “ลูกน้อง” ว่า ให้บอกกับหมอตรงกันว่า ผู้ตายเสพยาเกินขนาดตาย พร้อมปล่อยตัว “ผู้ต้องหาหญิง” บอกว่าไม่ต้องพูดอะไรเพื่อแลกกับอิสรภาพไม่ต้องถูกดำเนินคดียาเสพติด

แต่อย่างรวดเร็ว หลักฐานกลับโผล่ออกมาเป็นวีดีโอบันทึกภาพในห้องสอบสวน สถานีตำรวจ ที่มีชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายตำรวจอยู่สี่ห้าคน และชายหัวเกรียนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับ ผู้กำกับโจ้ ใช้ถุงพลาสติกสีขาวคลุมหัวชายที่นั่งเก้าอี้ หลังจากนั้นชายคนนั้นก็ล้มลงกับพื้น ชายฉกรรจ์กรูเข้าไปล้อมชายคนนั้น เข้าใจว่าเสียชีวิตในช่วงนี้ ซึ่งเป็นภาพเหมือนกับตำรวจชั้นผู้น้อยได้เขียนข้อความร้องเรียน

เมื่อหลักฐานเปิดเผยออกมาเช่นนี้ ผู้กำกับโจ้ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าพ่อค้ายาตายคาโรงพัก พฤติกรรมที่อำมหิตโหดค เป็นเหตุที่ “ตำรวจชั้นผู้น้อย” ทนไม่ได้จึงเขียนหนังสือร้องเรียนแฉพฤติกรรมดังกล่าวของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ รวมไปถึงการใช้อำนาจหน้าที่ “ผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์” ประพฤติมิชอบมาตั้งแต่รับตำแหน่ง เป็นผลให้ “ผบช.ภ.6” ต้องออกคำสั่งย้ายด่วน เพื่อเปิดทางให้ “จเรตำรวจ” ลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง

ความน่าสนใจของเรื่องนี้ ไม่ได้เฉพาะเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ผิดกฎหมาย ที่ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ทำกับประชาชน แต่ยังมีประเด็นโปรไฟล์ที่ไม่ธรรมดาของ “ผู้กำกับโจ้” ด้วยมีการขุดคุ้ยปูมหลังของ “ผู้กำกับหนุ่มดาวรุ่ง” ผู้นี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเป็นนายตำรวจบุคลิก-หน้าตา-ฐานะดี เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแวดวงสังคมยุคหนึ่งถึงขั้นถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “ไฮโซ” มักชอบออกงานสังคม

มีสมญาว่า “โจ้ เฟอร์รารี่” จากรสนิยมที่ชื่นชอบและกว้างขวางในวงการ “ซูเปอร์คาร์-สปอร์ตคาร์” ที่ได้สะสมรถราคาเรือนล้านไว้หลายคัน ที่เป็นที่จดจำไม่พ้น Lamborghini รุ่น Aventador LP 720-4 50 Anniversario มูลค่าหลายสิบล้าน ที่เป็นรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปีของ Lamborghini ผลิตเพียง 100 คันทั่วโลก เลื่องลือกันว่า “ผู้กำกับโจ้” ได้ครอบครองรถหรูคันนี้เป็นคนแรกของประเทศ

ไม่เพียงแต่รสนิยมรถหรูเท่านั้น รสนิยมเรื่องสาวๆก็หาตัวจับยาก สมัยที่ยังเป็น “สารวัตรโจ้” เคยมีข่าวคบหากับดาราสาวสุดฮอต “เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร” เป็นข่าวฮือฮาสนั่นเมืองเมื่อเดือน พ.ค.58 ทุ่มทุนขึ้นป้ายอวยพรวันเกิดดาราสาวบนบิลบอร์ดยักษ์กลางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนมีข่าวว่า “สารวัตรโจ้” คุกเข่าขอดาราสาวแต่งงาน แต่สุดท้ายไม่ได้ลงเอยกัน เมื่อ “ดาราเมย์” สืบทราบว่า “สารวัตรโจ้” แต่งงานมีเมียมีลูกแล้ว

โดยภรรยาในขณะนั้นคือ “แจน-นิศารัตน์ กรรณสูต” ไฮโซเจ้าของธุรกิจเต็นท์รถหรู ที่จำหน่ายรถเฟอร์รารี และรถสปอร์ตยี่ห้อดัง จนมีข่าวว่า “ไฮโซแจน” ก็แปลกใจว่า สามีไปขอนักแสดงสาวแต่งงานได้อย่างไร ซึ่งสมญา “โจ้ เฟอร์รารี่” ก็ได้มาสมัยคบหากับ “ไฮโซแจน” นี่เอง

ปัจจุบัน “ผู้กำกับโจ้” เลิกรากับ “ไฮโซแจน” และมาคบหากับ “ใบเตย-พรพจี ศิริสิทธิ์” พิธีกรสาวสวยช่อง 9 ที่เป็นลูกสาว พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 ที่เป็นผู้บังคับบัญชา เป็น “ว่าที่ลูกเขย”

ด้วยสถานะ “ว่าที่ลูกเขยผู้บัญชาการ” ดังกล่าว ทำให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กล้าประกาศกร้าวในวันรับตำแหน่งผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ว่า จะไม่ขึ้นตรงกับผู้บังคับการจังหวัด เพราะมี “ว่าที่พ่อตา” เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6

ข้อมูลวงในยังเปิดเผยด้วยว่า เดิมพื้นฐานทางบ้าน พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมาแต่ต้น เป็น พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เองที่ “หาเงินเก่ง” มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ และที่ทำให้ชีวิตพลิกผันเข้าขั้น “เศรษฐี” ขณะดำรงตำแหน่ง “พ.ต.ท.ธิติสรรค์” ตำแหน่ง รอง ผกก.กก.1 บก.ปส.4 ดูแลพื้นที่ภาคใต้ นอกจากทำคดียาเสพติดรายใหญ่จนสร้างชื่อให้ตัวเองเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดมือฉมังแล้ว

ก็ยังทำให้ได้คลุกคลีตีโมงกับผู้ต้องหายาเสพติดรายใหญ่ๆในวงการธุรกิจ “สีดำ” รวมไปถึงเปิดทางให้เข้าสู่วงการธุรกิจ “รังนก” ที่เป็นธุรกิจ “สีเทา” เกี่ยวกับอิทธิพลมาเฟียอีกด้วย

หลังสร้างชื่อในยุทธจักรปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งเป็นหุ้นส่วนธุรกิจรังนกแล้ว “รองโจ้” ก็เบนเส้นทางเข้ามาเป็น “ตำรวจท้องที่” บ้าง โดยได้สไลด์มาเป็น รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อช่วงปี 2560 กระทั่งมาขึ้นตำแหน่งผู้กำกับการที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ในปัจจุบัน

ติดตาม ตอน 2


กำลังโหลดความคิดเห็น