MGR Online - โฆษก บช.น.ย้ำ ม็อบทะลุฟ้า ม็อบทะลุแก๊ส ชุมนุมวันนี้ผิดกฎหมาย จับผู้ก่อเหตุป่วนดินแดงเมื่อคืนนี้ 13 ราย ยึดระเบิด 63 ลูก ตำรวจเจ็บ 8 นาย ผบ.ตร.สั่งยกเลิกตู้คอนเทนเนอร์ไม่เป็นผล หลังม็อบยังปิดถนน สร้างความรุนแรง เตรียมปรับยุทธวิธีต่อไป
วันนี้ (22 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า กรณีมีการนัดหมายชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 22 ส.ค. 2564 ประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มทะลุฟ้า ที่แยกคอกวัว เวลา 15.00 น. แล้วเคลื่อนขบวนไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 2. กลุ่มทะลุแก๊ส ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง เวลา 17.00 น. บช.น.ขอเตือนว่ากรุงเทพฯเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ
สำหรับการชุมนุมเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (21 ส.ค.) ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง แล้วเคลื่อนขบวนไปตามถนนวิภาวดีรังสิต ปิดการจราจรหน้า รพ.ทหารผ่านศึก บางส่วนได้ยิงลูกหินเข้าไปใน กรมดุริยางค์ทหารบก ก่อนที่ตำรวจจะเข้ารักษาความสงบเรียบร้อย โดยประกาศแจ้งเตือนให้ยุติการชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมกลับปาระเบิดปิงปอง และไปป์บอมบ์ใส่ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 8 นาย ทั้งนี้ พบว่า ทรัพย์สินของราชการ ทรัพย์สินของเอกชน และทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์ โดยเฉพาะเครื่องมือควบคุมการจราจรที่มีมูลค่าสูงของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ถูกทุบทำลายเสียหาย
“ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 13 ราย พร้อมของกลางระเบิดปิงปอง 53 ลูก ระเบิดแสวงเครื่อง 10 ลูก และกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง” รองฯ ต๊ะ กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า กรณี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่งปรับยุทธวิธีโดยยกเลิกการตั้งตู้คอนเทนเนอร์ บนถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก ใกล้แยกสามเหลี่ยมดินแดง มุ่งหน้ากรมทหารราบที่ 1 เพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด แต่ผู้ชุมนุมยังคงปิดการจราจรหน้า รพ.ทหารผ่านศึก และขว้างปาสิ่งของทำลายทรัพย์สินเช่นเดิม ในส่วนนี้ บช.น.จะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป กรณีปรากฏคลิปตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ยิงกระสุนยางใส่ผู้กระทำความผิดในระยะประชิด ขณะขับรถจักรยานยนต์ผ่านแยกสามเหลี่ยมดินแดง พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
ส่วนประชาชนแฟลตดินแดงได้รับความเดือดร้อนจากการสลายการชุมนุมนั้น ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พบว่า แทบไม่มีแล้ว อาจจะเกิดขึ้นในกรณีที่มีการติดตามตัวผู้กระทำความผิดเท่านั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้กำชับถ้าไม่มีความผิดซึ่งหน้า และไม่มีผลกระทบคนอื่นๆ ให้เก็บพยานหลักฐานและดำเนินคดีในภายหลัง.