xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าของสปา ร้านนวดยื่นฟ้องกระทรวงการคลัง สั่งปิดกิจการหลายเดือน เรียกค่าเสียหาย 200 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ส.ส.ก้าวไกล นำผู้ประกอบอาชีพร้านสปา-ร้านนวด ยื่นฟ้องกระทรวงการคลัง ละเมิดสั่งปิดกิจการนานหลายเดือน เรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท


วันนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายสุเทพ อู่อ้น, นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และทีมทนาย ร่วมเป็นตัวกลางนำนายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย และ น.ส.อักษิกา จันทรวินิจ ตัวแทนกลุ่มธุรกิจร้านนวด-สปาที่มีสมาชิกกลุ่ม 157 คน  มายื่นฟ้องกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และกทม. ร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวด และสปาในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายให้ผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อน จากการถูกสั่งปิดสถานประกอบการร้านนวดตามคำสั่งของรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการบริหารจัดการโควิด ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยไปเรียกร้องมาหลายหน่วยงานแล้ว

นายพิทักษ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดได้รับผลกระทบจากนโยบายสั่งปิดกิจการร้านนวดตั้งแต่ปี 2563 และถูกสั่งปิดต่อเนื่องทุกครั้งของการล็อกดาวน์ ซึ่งร้านนวดไม่เคยเป็นสถานที่เสี่ยง และไม่เคยมีผู้ติดเชื้อเกิดขึ้น แต่รัฐก็ยังสั่งปิดร้านนวดทุกครั้ง จนผู้ประกอบการบางรายต้องปิดกิจการ จนถึงขณะนี้ยังไม่รับการเยียวยาจากภาครัฐเลยสักครั้ง และในวันนี้กลุ่มผู้ประกอบการได้เรียกร้องค่าเสียหายจากภาครัฐเป็นเงินจำนวน 200 ล้านบาท


นายพิทักษ์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 รอบแรกจนปัจจุบัน รัฐบาลยังไม่เคยยื่นความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ เราจึงไม่รับความเป็นธรรมจากการเยียวยาของรัฐบาล และเราโดนปิดกิจการมาตลอด บอกว่า ให้ช่วยหยุดเชื้อเพื่อชาติ ดังนั้น เมื่อเรายังได้รับความเสียหาย มีค่าใช้จ่ายจากค่าเช่า ค่าภาษี และการขาดรายได้ ประกอบกับไฟแนนซ์ ไม่อนุมัติเงินกู้ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อ ทำให้เราต้องมาพึ่งศาล หวังว่า ศาลจะช่วยหาทางออกให้พวกเรา ที่ผ่านมา รัฐบาลฉีดวัคซีนให้ไม่เพียงพอบอกว่ากับความต้องการ และหาว่าร้านนวดเป็นกลุ่มเสี่ยงแพร่ระบาด ทั้งที่เราไม่เคยเป็นคลัสเตอร์ใหญ่มาก่อน คำสั่งของรัฐ ทำให้เรามีภาระหนี้สิน สิ้นเนื้อประดาตัว เราอดทนมาพอแล้ว รัฐบาลไม่เคยให้เรา คำสั่งของรัฐออกมา 38 ฉบับ และยังให้เราปิดมาจนถึง 31 ส.ค. 2564 ก็ยังไม่รู้ว่าจะเปิดอีกได้เมื่อไหร่ เราไปติดต่อขอพักการชำระหนี้ไฟแนนซ์และธนาคาร เขาก็บอกว่านายกรัฐมนตรียังไม่มีคำสั่ง เป็นลายลักษณ์อักษรว่าให้ธนาคารงดเก็บหนี้ งดเก็บดอก เราจึงยังต้องจ่ายต่อไป

ด้าน น.ส.มณลภัส ไทยเจริญ เจ้าของร้านสปาเดวาย่านสุขุมวิท 101/1 บอกว่า ตนถูกปิดมานานกว่า 8-9 เดือนแล้ว มีหนี้สินอยู่หลายแสน แถมยังได้จดหมายทวงหนี้จากรัฐ เรียกเก็บภาษีโรงเรือนภาษีป้าย นอกจากนี้ ผู้เช่ายังต้องเสียค่าเช่าให้กับผู้ให้เช่าอีกเดือนละ 30,000 บาท ถึงตอนนี้ยังต้องจ่าย คิดว่าต่อไปนี้คงเลิกทำอาชีพนี้แล้ว เพราะจ่ายไม่ไหวแล้ว

ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ในฐานะเป็นตัวกลางยื่นฟ้องให้กลุ่มผู้ประกอบการ กล่าวว่า การฟ้องในครั้งนี้เป็นการฟ้องแพ่งแบบรวมกลุ่มหรือ Class Action ครั้งแรก ซึ่งอยากให้คดีนี้เป็นคดีแรก และเป็นคดีในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลจะตัองรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชน และความเสียหายที่เกิดขึ้นของผู้ประกอบการ ทั้งๆ ที่เป็นมาตรการที่รัฐบาลสั่ง แต่ไม่มีมาตรการที่จะมารองรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ผ่านมากว่าหนึ่งปีแล้ว ที่ผู้ประกอบการร้านนวดเหล่านี้ ยังไม่เคยได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ แต่ถ้าหากจะมาเยียวยาตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว เพราะไม่ได้สัดส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้น เราคิดว่ามันสายเกินไปแล้ว ต้องมาพึ่งศาลว่าได้กระทำการละเมิดกับประชาชนในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ที่ผิดพลาดขนาดนี้ ก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับประชาชน ซึ่งการฟ้องร้องในวันนี้เป็นคดีแรกของการฟ้องรวมกลุ่มของกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวด และจะขยายไปยังกลุ่มผู้ประกอบการอื่นๆ อีก เช่น ร้านอาหาร และผับ บาร์ 

ทั้งนี้ ศาลแพ่งนัดไต่สวนคำร้องขอให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มวันที่ 21 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.โดยโจทก์จะดำเนินกระบวนพิจารณาทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม GOOGLE MEET จากสำนักงานของโจทก์


กำลังโหลดความคิดเห็น