MGR Online - หน่วยปราบยาเสพติดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยึดยาไอซ์เกือบครึ่ง กก.ซุกหมอนปะปนเครื่องสังฆภัณฑ์ เตรียมส่งออสเตรเลีย ขยายผลดักจับ 2 ผู้ต้องหา เป็นหญิงไทย-หนุ่มไนจีเรีย ขณะนำพัสดุมาส่งซ้ำ คุมตัวค้นที่พัก พบเพิ่มทั้งไอซ์ เฮโรอีน และโคเคน พบเคยทำมาแล้วหลายครั้ง
วันนี้ (14 ส.ค.) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้บูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดปราบปรามยาเสพติด และสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแหล่งผลิตผ่านประเทศไทย ไปยังประเทศที่สาม อย่างเข้มงวดนั้น เมื่อวันที่ 4 ส.ค. หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดผ่านทางท่าอากาศยาน (AITF) ทำการตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ขาออก ปลายทางออสเตรเลีย ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุชื่อที่อยู่ผู้ส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และระบุชื่อที่อยู่ผู้รับจากประเทศออสเตรเลีย พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อประมาณ 490 กรัม ซุกซ่อนในหมอนสีส้ม ปะปนกับเครื่องสังฆภัณฑ์ จึงร่วมกันสืบสวนขยายผลจนทราบว่า น.ส.มาริษา น้อยพิทักษ์ เป็นผู้ส่งพัสดุซุกซ่อนยาเสพติดไปออสเตรเลียมาแล้วหลายครั้ง ก่อนวางแผนจับกุม
ต่อมา วันที่ 13 ส.ค. เวลาประมาณ 16.00 น. หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดผ่านทางท่าอากาศยาน จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ได้แก่ น.ส.มาริษา น้อยพิทักษ์ และ Mr.OBIMMA KELECHI ANTHONY สัญชาติไนจีเรีย หนังสือเดินทางเลขที่ A04959309 พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 490 กรัม ซุกซ่อนในแกนภาพแขวน ซึ่งจับกุมได้ขณะผู้ต้องหานำพัสดุไปฝากส่งที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ปลายทางระบุประเทศออสเตรเลีย
นายวิชัย เผยอีกว่า จากนั้น นำตัวผู้ต้องหา น.ส.มาริษา นำตรวจค้นที่พักย่านซอยรามคำแหง 50 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 985 กรัม ซุกซ่อนในแกนภาพแขวน นอกจากนี้ ได้นำตัว MR.OBIMMA นำตรวจค้นบัานเลขที่ 124/49 และ เลขที่ 74/2 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) น้ำหนักประมาณ 35 กรัม, (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 89 กรัม และ ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน หรือ โคเคน) น้ำหนักประมาณ 82 กรัม
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองราย มาจัดทำบันทึกและสอบปากคำเพิ่มเติมที่ บก.ปส.3 และจะนำตัวผู้ต้องหา และของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานข้อมูลให้กับทางตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลียขยายผลเพื่อสืบสวนผู้รับปลายทางต่อไป