MGR Online - ผบช.สตม.ลงพื้นที่เมืองกาญจน์ ประชุมรับมือหลังข่าวต่างด้าวทะลักเข้าไทยหนีโควิดระบาดหนักในประเทศ ด้าน ตม.- ฝ่ายปกครอง เห็นตรงกัน หากพบหลบหนีเข้าชายแดนไทย ให้รีบส่งตัวกลับทันที
วันนี้ (5 ส.ค.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ตม.5 พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 และ พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ได้เดินทางไปยัง ตม.จ.กาญจนบุรี เพื่อเรียกประชุมและวางมาตรการป้องกันการทะลักเข้าประเทศของชาวเมียนมา หลังเกิดกระแสข่าวว่าชาวเมียนมาจะหลบหนีการติดเชื้อโควิด-19 ที่มีการระบาดหนักในประเทศเข้ามายังชายแดนไทยด้านตะวันตก โดยมี นายชำนาญ ชื่นตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 รรท.ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี เข้าร่วมประชุมด้วย
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้เดินทางมาวางมาตรการป้องกันคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เพราะในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ก็เหมือนกับภาวะสงคราม เป็นที่ทราบดีว่าชาวเมียนม่าก็พยายามเข้ามาหลบภัยในเมืองไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ และบางส่วนก็ติดเอาเชื้อไวรัสเข้ามาในไทยด้วย ดังนั้น จึงร่วมกับหน่วยงานชายแดนทั้งปกครอง ทหาร ตำรวจ จนท.เมียนมา ร่วมกันประสานส่งกลับคนต่างด้าวให้กลับประเทศ เพราะทาง สตม. และจังหวัดไม่สามารถนำมากักตัวในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ได้แล้ว เนื่องจากจำนวนที่พักและสถานกักกันโรคมีไม่เพียงพอ
“ถึงเวลาที่แต่ละหน่วยต้องเอาความจริงมาคุยกันและต้องทำงานเป็นทีมเวิร์ก ตนเห็นด้วยกับฝ่ายปกครองที่มีแนวทางเป็นแนวทางเดียวกัน คือ การประสานประเทศเพื่อนบ้านเพื่อส่งคนต่างด้าวกลับประเทศ เพื่อป้องกันการระบาดในไทย” พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าว
มีรายงานด้วยว่า ในที่ประชุมทุกฝ่ายทั้ง สตม. ฝ่ายปกครอง ทหาร และแพทย์ ได้ข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่ชายแดนหากพบเห็นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองก็ให้ดำเนินการประสานหน่วยงานชายแดนเมียนมา ส่งคนต่างด้าวกลับออกนอกประเทศทันที อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีผู้นำพาโดยผิดกฎหมายให้ดำเนินการจับกุมเฉพาะผู้นำพานั้นมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ส่วนผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองมาก็ให้ประสานส่งกลับไปทางเดิม เพื่อเป็นมาตรการสูงสุดในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับสถานการณ์ในห้องกักของ ตม.จังหวัดกาญจนบุรี นั้น พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่ามีผู้ที่ติดเชื้อ 34 คน โดยแยกตัวออกจากผู้ต้องกักคนอื่นๆ ที่มีอยู่รวมกว่า 300 คนแล้ว และได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นที่ห้องกัก โดยประสานกับแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว เพราะผู้ป่วยไม่มีอาการหนัก ขอประชาชนอย่าตกใจ เพราะผู้ติดเชื้อนั้นอยู่ในห้องกักที่มีมาตรการป้องกันอย่างรัดกุมระดับสากล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สมพงษ์ ได้เข้าไปตรวจภายในห้องกัก ตม.จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยตนเอง โดยมีการสวมชุดพีพีอีและอุปกรณ์ป้องกันอย่างมิดชิด ร่วมกับแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในส่วนของห้องกักตัวคนต่างด้าวด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม.3) เซ็นคำสั่งกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม ใจความว่า ด้วยปรากฏข้อมูลข่าวสารทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดกาญจนบุรี มีข้าราชการตำรวจและบุคลากรในสังกัด รวมถึงผู้ต้องกักในความรับผิดชอบ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับอาจจะมีการปล่อยปละละ เลย ขาดการควบคุม กำกับดูแลเอาใจใส่ รวมถึงช่วยเหลือ ผู้ใต้บังคับบัญชาจึงให้ พ.ต.อ.จักษ์ ยังให้ผล ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 โดยให้ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม และให้ พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 รักษาราชการแทน ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี ตั้งแต่ 31 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ สตม. ได้เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงตามที่ปรากฏข่าวตามสื่อออนไลน์ กรณี ตม.จว.กาญจนบุรี รับ 4 ต่างด้าว โดยไม่ผ่านจุดคัดกรองโรค ทำให้มีผู้ต้องกักอื่นติดเชื้อโควิด-19 นั้น สตม. ขอย้ำว่า คนต่างด้าวทั้ง 4 ราย ผ่านจุดคัดกรองโรคและมีใบรับรองผลการตรวจว่าไม่พบเชื้อ ต่อมาพบว่ามีผู้ต้องกักติดเชื้อ จึงได้แยกตัวผู้ต้องกักที่ติดเชื้อไปยังห้องแยกจากผู้ต้องกักอื่น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และ ตม.จว.กาญจนบุรี ได้ประสานไปยังโรงพยาบาลให้มาตรวจหาเชื้อผู้ต้องกักทั้งหมด พบว่า มีผู้ติดเชื้อ 34 ราย ซึ่งทาง สตม. ได้ตั้ง รพ.สนาม โดยนำบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์จากการจัดตั้ง รพ.สนาม ที่ อ.สะเดา จว.สงขลา และ รพ.สนามของ สตม. ที่โรงยิม สโมสรตำรวจ มาร่วมดำเนินการจัดตั้งเพื่อรองรับผู้ที่ติดเชื้อต่อไป