MGR Online - รองผบ.ตร.กำชับการปฏิบัติของตำรวจในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม) หลังปรับเพิ่มเป็น 29 จังหวัด เพิ่มความเข้มเฝ้าระวังหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดน การรวมกลุ่มมั่วสุมเสี่ยงแพร่เชื้อ
วันนี้( 2 ส.ค.)พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 ส.ค. 64 ขยายมาตรการล็อกดาวน์ เคอร์ฟิว จำกัดการเดินทาง ปรับพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด มีผลตั้งแต่ 3 ส.ค. 64 เป็นต้นไป พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปม.ตร.) ได้ประชุมผ่านระบบวีดีโอทางไกลกับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง กำชับให้ ผบก.ภ.จว. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ที่ประกาศเพิ่มเติม 16 จังหวัด กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อจัดตั้งจุดชะลอการเดินทาง จุดตรวจเคอร์ฟิว ชุดสายตรวจร่วมหรือชุดเคลื่อนที่เร็ว และให้ ผบก.ภ.จว.ที่มีพื้นที่รอยต่อจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน 21 จังหวัด ได้แก่ 1.แม่ฮ่องสอน 2.เชียงใหม่ 3.ลำพูน 4.ลำปาง 5.สุโขทัย 6.กำแพงเพชร 7.นครสวรรค์ 8.อุทัยธานี 9.ชัยนาท 10.ชัยภูมิ 11.พิจิตร 12.พิษณุโลก 13.เลย 14.ขอนแก่น 15.บุรีรัมย์ 16.สระแก้ว 17.จันทบุรี 18.ชุมพร 19.นครศรีธรรมราช 20.พัทลุง 21.สตูล ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อกำหนดการจัดตั้งจุดตรวจชะลอการเดินทางเพื่อเข้าจังหวัดของตนเอง ทั้งนี้ ให้ประสานกับจังหวัดข้างเคียง เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน
สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด(สีแดง) 37 จังหวัด ให้ ผบก.ภ.จว. ให้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดในการตั้งจุดตรวจคัดกรองโรค ชุดสายตรวจร่วมหรือชุดเคลื่อนที่เร็ว โดยให้ทุกหน่วยศึกษามาตรการตามข้อกำหนดฯ ที่ออกมาบังคับใช้ให้ชัดเจน แล้วชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนทราบและประสานบูรณาการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมปฏิบัติงาน ให้ทุกหน่วยเข้มงวดตรวจตราเพื่อสืบสวน ปราบปรามจับกุมผู้รวมกลุ่มมั่วสุมกระทำการที่ผิดกฎหมาย เช่น ลักลอบเล่นการพนัน เสพยาเสพติด มั่วสุมในลักษณะที่จะนำไปสู่การแข่งรถในทาง หรือฝ่าฝืนเปิดสถานบริการในพื้นที่ที่มีข้อกำหนดฯ ห้ามเปิด รวมทั้งให้กำชับเจ้าหน้าที่ของศูนย์รับแจ้งเหตุ ฉุกเฉิน 191 สายด่วน 1599 รับแจ้งเบาะแส เหตุฉุกเฉิน แล้วประสานเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่ หากพบว่าหน่วยใดปล่อยปละละเลย หรือย่อหย่อนในการปฏิบัติหน้าที่ให้พิจารณาข้อบกพร่องเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและผู้บังคับบัญชา ผู้มีหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแล ให้เหมาะสมแก่กรณี
"นอกจากนี้ให้ติดตามสถานการณ์ของประเทศบ้านที่มีผู้ติดเชื้อสูง โดยเพิ่มความเข้มงวดการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนของบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ห้ามยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์อันมิชอบ โดยเฉพาะการนำพาช่วยเหลือซ่อนเร้น การอำนวยความสะดวกให้กับเครือข่ายขบวนการลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด"โฆษก ตร.ระบุ
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวต่อไปว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังกำชับอีกว่า ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์มีบุคคลบางกลุ่ม โดยทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ เป็นจำนวนมาก ให้ทุกหน่วย หากพบข้อความอันเป็นเท็จ ที่เกี่ยวข้องกับ บช.ภ.ใด ให้โฆษกของหน่วยงานชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบโดยทันที และให้พิจารณาว่าความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัวหรือความผิดอาญาแผ่นดิน หากเป็นความผิดต่อส่วนตัวให้ประสานผู้เสียหายเพื่อร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน หากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน(ยอมความไม่ได้)ให้หัวหน้าหน่วยงาน มอบหมายตัวแทนไปกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ยังแสดงความห่วงใยกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง การออกตรวจแคมป์คนงาน และการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด จึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาดูแลข้าราชการตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัวตำรวจ เร่งตรวจ Antigen Test Kit และดำเนินการแยกผู้ป่วยสีเขียว ออกมาเพื่อทำ Home isolation หรือ community isolation กรณีตรวจพบกำลังพลหรือครอบครัวติดเชื้อโควิด ให้ผู้บังคับบัญชาที่เหนือขึ้นไป ระดับไม่ต่ำกว่าผู้กำกับการรับผิดชอบ ในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข ตลอดจนการช่วยเหลือด้านต่างๆ ของทั้งกำลังพล และ ครอบครัว กรณีเกิดปัญหา ไม่สามารถดำเนินการได้ ให้รายงานตามลำดับชั้น ถึง บก. บช. และตร. เพื่อขอรับการสนับสนุนโดยเร่งด่วนต่อไป