อัยการยื่นฟ้อง "มายด์"แกนนำคณะราษฎรกับพวก 12 คน จัดม็อบปราศรัย-อ่านเเถลงการณ์หน้าสถานทูตเยอรมัน หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ด้าน "รังสิมันต์ โรม"ส.ส.ก้าวไกลรุดยื่นประกันตัว
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (22 ก.ค.) ที่สำนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง 63 อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 นัดฟังคำสั่งในคดีที่พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ ,นายกรกช แสงเย็นพันธ์ (ปอ DRG) ,นายชนินทร์ วงษ์ศรี หรือบอล , น.ส.เบนจา อะปัญ ,นายวัชรากร ไชยแก้ว , นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา (แอม) ,นายอรรถพล บัวพัฒน์ (ครูใหญ่) ,นายอัครพล ตีบไธสง , นายกฤษพล ศิริกิตติกุล ,น.ส.สุธินี จ่างพิพัฒน์นวกิจ ,น.ส.รวิสรา เอกสกุล , น.ส.ณัชชิมา อารยะตระกูลลิขิต และ นายชลธิศ โชติสวัสดิ์ รวม 13 คน ในความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มาตรา 112 และยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายฯ มาตรา 116 กรณีจัดชุมนุมและอ่านแถลงการณ์หน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563
โดยวันนี้ผู้ต้องหาทุกคนทยอยเดินทางมารับทราบคำสั่งจำนวน 12 คน ขาดเพียงนายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา ที่ไม่มารายงานตัว โดยมีนายอานนท์ นำภา เเกนนำราษฎร,นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล และผู้สนับสนุนมาให้กำลังใจด้วย ซึ่งมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยมีหุ่นศพจำลอง และป้ายที่มีข้อความขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงข้อความต่อต้านข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง มาตรา 112 ด้วย โดนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากสถานทูตเยอรมัน 3 คน มาร่วมสังเกตุการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างผู้ต้องหารับฟังคำสั่งจากอัยการอยู่นั้น ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนประมาณ 10 คน ใช้โทรโข่ง และตะโกน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
ด้านนายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ตนและเพื่อน ส.สพรรคก้าวไกล 2 คน ได้แก่ นายทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส.สมุทรสาคร และน.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม มายื่นประกันตัวโดยจะใช้ตำแหน่ง ส.ส.ในการประกันตัว โดยคาดว่าวันนี้อัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้อง ซึ่งเบื้องต้นทนายความประสานมาว่าใช้ตำแหน่ง ส.ส. 3 คน ประกันตัวก็เพียงพอ
จากนั้นเวลา 10.35 น. พนักงานอัยการได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 12 คน เดินทางไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อยื่นฟ้องต่อศาล
นายศุภณัฐ บุญสด ทนายความ กล่าวว่า อัยการสั่งฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ 116 ซึ่งได้เตรียมการประกันตัวโดยใช้ตำแหน่งอาจารย์ 6 ท่าน และส.ส. 3 ท่าน โดยวงเงินประกันตีไว้คนละ 2 แสนบาท แต่เนื่องจากใช้ตำแหน่งประกันก็จะครอบคลุมทั้งหมด โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดประกันตัว
สำหรับคำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2563 จำเลยทั้ง 12 คน กับพวกอีก 2 คนที่ยังหลบหนีไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยใช้รถสามล้อเครื่อง ติดตั้งเครื่องขยายเสียงชุมนุมกล่าวปราศรัย ลักษณะหมิ่นประมาท
ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ที่บริเวณหน้าสถานทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จากนั้นจำเลยที่ 1 ได้เป็นตัวแทนเข้าไปในสถานทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเพื่อยื่นหนังสือจดหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยให้กับเอกอัครราชทูต และในระหว่างนั้น จำเลยที่ 2-5 ได้ผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่อ่านหนังสือแถลงการณ์ฉบับภาษาไทยและภาษาต่างประเทศที่จัดเตรียมมาผ่านเครื่องขยายเสียงโดยมีเนื้อหาโจมตีรัฐบาลและสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้พระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบันเสื่อมเสียพระเกียรติยศ เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังอย่างร้ายแรง และการร่วมกันกระทำความผิดของจำเลยทั้ง 12 คนกับพวก ยังเป็นการกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหนังสือหรือวิธีอื่นใด ให้กลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชนอื่นทั่วไป เกิดความเกลียดชังสถาบันพระมหากษัตริย์ ชักจูงประชาชนแบ่งออกเป็นฝักฝ่ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือเพื่อให้ประชาชนที่มาชุมนุมฝ่าฝืนหรือล่วงละเมิดกฎหมายของแผ่นดินอันบัญญัติไว้เพื่อป้องกันมิให้ผู้ใดล่วงละเมิดพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขของประเทศและพูดชักชวนหรือโน้มน้าวให้ประชาชนร่วมกันเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อจำกัดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในด้านต่างๆ อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ.หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เหตุเกิดที่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.
ทั้งนี้ภายหลังอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้แล้ว ศาลจึงได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.1297/2564
โดยศาลสอบถามจำเลยทั้ง 12 คนเกี่ยวกับทนายความ ทั้งหมดขอต่อสู้คดีโดยวันนี้ยังไม่มีทนายความ ศาลจึงนัดสอบคำให้การและตรวจหลักฐานในวันที่ 11 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
จากนั้นจำเลยทั้งหมดได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 12 คน โดยตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามไปกระทำความผิดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์อีก และกำชับให้มาศาลตามกำหนดทุกนัดโดยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล