MGR Online - ตร.พลับพลาไชย 2 รวบ 2 โจรตระเวนงัดเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ อ้างหาเงินไปใช้เลี้ยงดูครอบครัว พบประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
วันนี้ (16 ก.ค.) พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 พ.ต.ท.ธนกฤต วุฒิมโนจินดา สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.พลับพลาไชย 2 ได้ร่วมกันทำการจับกุมนายวันตระการ ตินะน้อย อายุ 22 ปี และ นายสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหา พร้อมของกลาง จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น สกู๊ปปี้ ไอ สีดำ-ชมพู หมายทะเบียน 1 ขส 1143 กรุงเทพมหานคร (ใช้ขับขี่ขณะก่อเหตุ) และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของผู้ต้องหาทั้งสอง (ใช้สวมใส่ในขณะก่อเหตุ) โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ ซอยเจ้าสัวสอน ภายในชุมชนตลาดน้อย แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์เงินในตู้หยอดเหรียญเครื่องซักผ้า ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 4 ซ.พันธจิตต์ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของผู้เสียหายบริเวณที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิด (CCTV) ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จากการตรวจสอบ พบคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาจอดที่บริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ก่อเหตุลักทรัพย์ โดยใช้คีมตัดหูคล้องแม่กุญแจกล่องหยอดเหรียญเครื่องซักผ้าและลักเอาเงินที่อยู่ภายในกล่องหยอดเหรียญเครื่องซักผ้าดังกล่าวหลบหนีไปตามเส้นทางถนนไมตรีจิตต์ และเข้าไปภายในชุมชนตลาดน้อย แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวน จึงได้ทำการลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวจนได้ทราบชื่อ ที่อยู่ ของคนร้ายทั้งสอง จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ให้พนักงานสอบสวนทำการขออนุมัติหมายจับคนร้ายทั้งสองดังกล่าว จนกระทั่งศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไว้ได้ คุมตัวสอบสวน ที่ สน.พลับพลาไชย 2
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพว่า ทั้งสองไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง โดย นายวันตระการ เพิ่งออกจากเรือนจำมาไม่มีงานทำ จึงชักชวนกันตระเวนขับรถจักรยานยนต์ ไปก่อเหตุลักษณะดังกล่าว ในพื้นที่ บก.น.6 ถึง 5 สน. ซึ่งก่อเหตุในพื้นที่ สน.จักรวรรดิ 3 ครั้ง สน.พลับพลาไชย 1 2 ครั้ง สน.พลับพลาไชย 2 2 ครั้ง สน.ปทุมวัน 1 ครั้ง สน.สำราญราษฎร์ 1 ครั้ง
เมื่อทำการตรวจสอบประวัติพบว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อได้ทรัพย์สิน นายวันตระการ นำเงินที่ได้ไปเลี้ยงดูครอบครัว โดยมีลูกที่ยังเล็ก ส่วนนายสมศักดิ์นำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดมาเสพ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ โดยทำด้วยประการใดเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ดี ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนโดยใช้ประโยชน์จากกล้องวงจรปิด (CCTV) ตามโครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนทำให้สามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้ต้องหา และยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ เส้นทางหลบหนี จนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองดังกล่าวได้