xs
xsm
sm
md
lg

ตรวจพบผู้ต้องขังติดโควิดเพิ่ม 37 ราย เสียชีวิตอีก 2 เป็นชายจากเรือนจำคลองเปรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - กรมราชทัณฑ์” รายงานผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 รายวัน 37 ราย ดับ 2 เป็นผู้มีโรคประจำตัว ย้ำมาตรการป้องกัน สกัดเชื้อไม่ให้ระบาดในเรือนจำสีขาว

วันนี้ (6 ก.ค.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ก.ค.64 เวลา 16.00 น.) ว่า พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 37 ราย รักษาหายเพิ่ม 163 ราย รวมหายสะสม 34,929 รายของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 36,855 ราย เสียชีวิต 2 ราย รวมสะสม 46 ราย และมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 1,621 ราย โดยภาพรวมมีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาด 122 แห่ง และเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 11 แห่ง

นายอายุตม์ เปิดเผยว่า สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นผู้ต้องขังชายจากเรือนจำกลางคลองเปรม เข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และเสียชีวิตในวันที่ 4 ก.ค. ทั้งคู่ โดยรายแรก อายุ 40 ปี มีโรคประจำตัวไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เอ็กซเรย์พบปอดอักเสบ ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir Dexamethasoneยาปฏิชีวนะระดับสูง ยารักษาโรคประจำตัว และ ออกชิเจนความเข้มข้นสูง HFNC ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยมากได้ประสานญาติวางแผนการรักษา พิจารณารักษาแบบประคับประคอง จนกระทั่งเสียชีวิต

“ส่วนรายที่ 2 อายุ 38 ปี ประวัติเคยรักษาโรคเกี่ยวกับปอด เอกซเรย์พบปอดอักเสบ ให้การรักษาด้วยออกชิเจน HFNC Favipiravir Dexamethasone และยาปฏิชีวนะระดับสูง จนกระทั่งในวันที่ 4 ก.ค. ผู้ป่วยซึมลง วัดสัญญาณชีพไม่ได้ CPR ใส่ท่อช่วยหายใจ ยากระตุ้นหัวใจ ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจแก่ญาติและครอบครัวของผู้ต้องขังต่อการสูญเสียในครั้งนี้ด้วย”

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ นอกจากการค้นหาผู้ติดเชื้อให้เข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างรวดเร็ว การแยกกักกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง และควบคุมโรคในเรือนจำสีแดงที่ยังคงดำเนินการต่อเนื่องอย่างเป็นระบบแล้ว ยังต้องรักษามาตรการป้องกันเชื้อของเรือนจำสีขาวอย่างเคร่งครัด ทั้งการเตรียมแผนเผชิญเหตุ การเตรียมพื้นที่สร้างโรงพยาบาลสนามเรือนจำในกรณีที่เกิดการระบาด และมาตรการกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกราย รวมถึงมาตรฐานด้านสุขอนามัยภายในเรือนจำและทัณฑสถาน ซึ่งต้องดำเนินการให้ได้ครบถ้วน 100 เปอร์เซ็นต์ในทุกกระบวนการ เพราะหากเชื้อสามารถเล็ดลอดเข้าสู่แดนในได้แล้วจะควบคุมสถานการณ์ได้ลำบาก รวมถึงการเร่งฉีดวัคชีนให้ครอบคลุมผู้ต้องขังทุกรายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน และปัจจุบันอยู่ระหว่างประสานกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้ารับวัคซีนอย่างต่อเนื่องต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น