xs
xsm
sm
md
lg

“ราชทัณฑ์” เผยสถานการณ์ในเรือนจำพบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 44 ราย เสียชีวิตอีก 2 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - “อธิบดีกรมคุก” แจงผู้ต้องขังติดโควิด-19 เพิ่ม 44 ราย ดับ 2 ราย เป็นผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ชี้ เรือนจำกรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ระหว่างรักษาต่ำกว่า 2 พันรายเป็นวันแรก

วันนี้ (1 ก.ค.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 64 เวลา 16.00 น.) ว่า พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่เพียง 44 ราย รักษาหายเพิ่ม 429 ราย เสียชีวิต 2 ราย รวมมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 2,501 ราย ภาพรวมมีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาด 125 แห่ง และเรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาด 9 แห่ง โดยมีจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายสะสม 33,389 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมทั้งสิ้น 43 รายของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม

นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ นับเป็นวันแรกที่ยอดผู้ติดเชื้อระหว่างรักษาของพื้นที่กรุงเทพมหานครลดลงต่ำกว่า 2 พันราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียว ที่เมื่อได้รับการดูแลรักษาจะหายได้ในระยะเวลา 14 วัน จึงคาดว่าจะมีผู้ป่วยที่หายเพิ่มอีกกว่า 1 พันรายในช่วงต้นเดือนนี้ ส่งผลให้การแพร่ระบาดในเรือนจำพื้นที่กรุงเทพมหานครน่าจะดีขึ้นตามลำดับ ส่วนในพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัด พบเพียง 4 แห่ง ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง คือ เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร, เรือนจำกลางนครปฐม, เรือนจำกลางสงขลา และทัณฑสถานหญิงสงขลา ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งตรวจหาเชื้อเพื่อให้ได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ช่วยลดผู้ป่วยหนัก ลดการเสียชีวิต และควบคุมสถานการณ์ได้โดยเร็ว

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิต 2 รายในวันนี้ รายแรกเป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 44 ปี จากเรือนจำกลางบางขวาง มีโรคประจำตัว ไตวายระยะสุดท้าย เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เข้ารักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีอาการเหนื่อย ร่วมกับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดจากแผลกดทับ ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir ยาปฏิชีวนะระดับสูง กระทั่งวันที่ 29 มิ.ย. ผู้ป่วยมีอาการซึมลง วัดสัญญาณชีพไม่ได้ ได้ทำการช่วยชีวิตตามกระบวนการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

“ส่วนรายที่ 2 เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 44 ปี รักษาตัวอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีโรคประจำตัว ไตวายระยะสุดท้าย มีอาการหอบเหนื่อย มีไข้ X-ray พบปอดอักเสบรักษาโดย Oxygen HFNC Favipiravir Dexamethasone ยาปฏิชีวนะระดับสูง ต่อมาผู้ป่วยมีภาวะความดันโลหิตต่ำ ให้ยาปรับความดันโลหิต Levophed ได้ประสานญาติผู้ป่วยทราบและการตัดสินใจของผู้ป่วย เรื่องการรักษาแบบประคับประคอง ญาติรับทราบและยินยอมตามการตัดสินใจของผู้ป่วย กระทั่งในวันที่ 29 มิ.ย. ผู้ป่วยมีอาการซึมลง วัดสัญญาณชีพไม่ได้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา กรมราชทัณฑ์ขอแสดงความเสียใจต่อญาติและครอบครัวของผู้ต้องขังมา ณ โอกาสนี้” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น