MGR Online - ผบ.ตร.กำชับตำรวจทุกหน่วยเตรียมความพร้อมรับนโยบายรัฐบาลเปิดประเทศ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” พื้นที่นำร่องส่งเสริมการท่องเที่ยว เน้นปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัด
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีตามที่รัฐบาลได้ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 26) โดยมีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. 64 เป็นต้นไป เพื่อเปิดพื้นที่นำร่องส่งเสริมการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง นั้น ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ เพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการต่อเนื่อง
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ในการเตรียมความพร้อมและได้กำชับไปยังหน่วยงานในสังกัดให้ประสานการปฏิบัติระหว่าง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมควบคุมโรค และหน่วยงานในพื้นที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขับเคลื่อนการปฏิบัติภารกิจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตามพิธีการคนเข้าเมืองและตามมาตรการสาธารณสุขที่กำหนด เพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID -19) ด้วยอีกส่วนหนึ่ง
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พร้อมหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมในการทำงานกับหน่วยร่วมปฏิบัติในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่จะเป็นพื้นที่นำร่องรองรับนักท่องเที่ยวตามด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ โดยจะดำเนินการตามมาตรการที่ ศบค. หรือ ศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ อนุมัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนด ใน 3 มาตรการ คือ มาตรการก่อนเดินทางเข้าในราชอาณาจักร, มาตรการเมื่อเดินทางถึงหรือระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร และ มาตรการก่อนเดินทางออกจากราชอาณาจักรหรือเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นภายในราชอาณาจักร
“มีเงื่อนไขสำหรับขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทย สำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามานั้น โดยหลักก็จะมี หนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้ (Certificate of Entry-COE), ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR มีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 72 ชม. ก่อนการเดินทาง, เอกสารหรือหลักฐานรับรองการได้รับวัคซีน ที่รับได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยา หรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด, กรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพหรือรักษาพยาบาล ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น หลังจากผ่านการตรวจคัดกรองโรคจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุขและการดำเนินการตามพิธีการคนเข้าเมือง เมื่อนักท่องเที่ยวได้เข้าพำนักในพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวก็จะมีมาตรการในการควบคุมและป้องกันโรคตามที่หน่วยงานสาธารณสุขและจังหวัดพื้นที่นำร่องได้กำหนด” รองโฆษก ตร.กล่าวทิ้งท้าย