xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งป้ายเอียง ขบวนการลอบขนต่างด้าวผิดกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตม.จับแก๊งป้ายเอียงขบวนการลักลัอบพาแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้าไทยผ่านชายแดนช่องทางธรรมชาติ

วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1 พ.ต.ท.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ รอง ผกก.สส.บก.ตม.1 พ.ต.ท.ทรงพันธุ์ กุลดิลก พ.ต.ท.ปัฐน์ แสนอินอำนาจ สว.กก.สส.บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.1 ร่วมกันจับกุม 1.นายเบิร์ด (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี สัญชาติไทย 2.นายบังซอด (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติไทย 3.นายเชียง อายุ 20 ปี สัญชาติกัมพูชา 4.นางใหม่ฯ อายุ 18 ปี สัญชาติกัมพูชา 5.นายพานุ อายุ 40 ปี สัญชาติกัมพูชา 6.นายซาลอน อายุ 29 ปี สัญชาติกัมพูชา 7.นางซาไลลอท อายุ 28 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สีชมพู รถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน กรุงเทพมหานคร สีชมพู และโทรศัพท์มือถือ

โดยกล่าวหาผู้ถูกจับกุมที่ 1 และ 2 ฐานเป็นตัวการร่วมตาม ป.อาญา ม.83 ตาม ม.64 พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม และฝ่าฝืนประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558

ส่วนผู้ถูกจับกุมที่ 3-5 ฐานความผิดตาม ม.11 ม.18 และ ม.81 พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ บุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรจะต้องเดินทางเข้ามาหรือออกไปตามช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง บุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรต้องยื่นรายการตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวง และผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ของด่านตรวจคนเข้าเมือง และเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้ถูกจับกุมที่ 6-7 ฐานความผิดตาม ม.81 พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับแจ้งจากสายลับทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว “แก๊งป้ายเอียง” ตระเวนรับบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา บริเวณปากซอยรามคำแหง 65 เพื่อจะนำหลบหนีออกไปยังประเทศกัมพูชา ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ โดยใช้รถตู้โดยสาร ทะเบียน กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.1 จึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งพบรถยนต์ตู้เป้าหมาย ได้มาจอดรับแรงงานต่างด้าวและมุ่งหน้าไปยังถนนรามอินทรา

เจ้าหน้าที่ได้ขับรถติดตามเพื่อดูพฤติการณ์ และเมื่อถึงบริเวณสถานที่จับกุมบริเวณถนนรามคำแหง ขาออก ตรงข้ามซอยรามคำแหง 110 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ใช้รถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ สตม. แสดงตัว ให้สัญญาณเพื่อหยุดรถคันดังกล่าว และทำการแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ

จากการตรวจสอบคนขับพบว่า คือ นายเบิร์ด เป็นคนขับรถตู้ และพบแรงงานต่างด้าวจำนวน 8 คน นั่งอยู่ในรถ โดยตรวจพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ไม่มีเอกสารหนังสือเดินทาง จำนวน 3 คน การอนุญาตสิ้นสุด จำนวน 2 คน มีเอกสารหนังสือเดินทางถูกต้อง 3 คน จึงได้จับกุมตัวนายเบิร์ด และแจ้งข้อหาข้างต้น โดยนายเบิร์ด รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

จากนั้นจึงควบคุมตัวนายเบิร์ด มาที่ กก.สส.บก.ตม.1 เพื่อสืบสวนขยายผลจากการสอบปากคำนายเบิร์ด ให้การว่า กลุ่มรถตู้ของพวกตนจะใช้สีสันฉูดฉาดเช่น สีชมพู สีส้ม สีเขียว และจะติดป้ายทะเบียนลักษณะเอียง 45 องศา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำโทรศัพท์ของนายเบิร์ด มาทำการตรวจสอบกับเครื่องมือตรวจพิสูจน์หลักฐานทางโทรศัพท์ (CELEBRITE) เพื่อค้นหาเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ นายเบิร์ด ให้การว่า ตนได้รับการว่างจ้างจากนายบังซอด ให้ไปตระเวนรับแรงงานต่างด้าวในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในราคาต่อเที่ยวครั้งละ 6,500 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.1 จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน

จากนั้นชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจากคำให้การและข้อมูลการเชื่อมโยงทางโทรศัพท์ เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับ นายบังซอด ต่อมาศาลอาญามีนบุรีได้อนุมัติออกหมายจับนายบังซอด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้วางกำลังไว้เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณบ้านของนายบังซอด จนกระทั่งพบตัว จึงได้แสดงหมายจับและทำการจับกุมตัว

นายบังซอด รับสารภาพว่า ตนเป็นคนจัดหาแรงงานต่างด้าวและว่าจ้างให้นายเบิร์ด ตระเวนรับแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเพื่อไปส่งบริเวณช่องทางธรรมชาติเขตติดต่อ ไทย-กัมพูชา โดยตนหาลูกค้าโดยการติดต่อกับนายบอย ชาวกัมพูชาซึ่งตนได้รู้จักกันมาก่อนหน้า นายบอยเป็นนายหน้าคอยหาลูกค้าผ่านแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊กในลักษณะการไลฟ์สด และนอกจากนั้นบังซอด ยังได้ให้การซัดทอดไปยัง นายใหญ่ สัญชาติไทย ว่าเป็นอีกหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งทาง กก.สส.บก.ตม.1 อยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น