MGR Online - กลัวถูกวิสามัญ! ดอดมอบตัวอีก 1 แก๊งรับจ้างนายทุนยาเสพติดสงขลา อุ้ม 2 หนุ่มเรียกค่าไถ่
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.วริศร มัจฉา สว.กก.6 บก.ป. พ.ต.ต.อภิชาติ อินยอด สว.กก.6 บก.ป. รับมอบตัว นายเดชา หรือ บอย ชิราภรณ์ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.209/2564 ลงวันที่ 18 มิ.ย. 64 ข้อหา “ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิตร่างกายเสรีภาพผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป จนผู้ถูกข่มขืนใจ ต้องกระทำการนั้น เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, ร่วมกันเอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว ผู้ถูกกักขังนั้นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยเป็นการกระทำโดยทรมานหรือทารุณโหดร้าย, ทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ที่ สภ.สิงหนคร จ.สงขลา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปรามนำกำลังบุกช่วยเหลือ นายจาฎพันธุ์ เจนจริยานนท์ และ นายรุสดี ปูเต๊ะ สองตัวประกันที่ถูกแก๊งทวงหนี้อุ้มตัวไปกักขังภายในบ้านเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ทำนบ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เพื่อเรียกค่าไถ่ 2 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัว พร้อมกับจับกุมตัว นายอรรถพนธ์ หรือ เอก เดชะ อายุ 33 ปี นายอภิสิทธิ์ หรือ เจ นิคม อายุ 26 ปี นายสุทธิรักษ์ หรือ บ่าว บริรักษ์ อายุ 25 ปี และ นายสิทธิพงษ์ หรือ บอย บุญสง อายุ 26 ปี 4 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้ภายในบ้านหลังดังกล่าว โดยทั้งหมดรับสารภาพว่ามีนายทุนค้ายาเสพติดรายใหญ่ จ้างอุ้มเพื่อทวงหนี้ยาเสพติด
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลจับกุม ส.อ.ภัชชระ สาระอาภรณ์ เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ที่ร่วมขบวนการด้วย จากนั้นขยายผลทราบอีกว่า นายเดชา ผู้ต้องหารายนี้ร่วมกับพวกจับตัว นายจาฎพันธ์ มาเรียกค่าไถ่ พร้อมกับซ้อมเหยื่อจนได้รับบาดเจ็บ จึงเร่งไล่ล่ากดดันผู้ต้องหารายนี้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพบว่า นายเดชา เคยมีคดีติดตัวและก่อเหตุมาอย่างโชกโชน เช่น คดีร่วมกันพยายามฆ่าฯ คดีครอบครองอาวุธปืน และคดีเกี่ยวกับยาเสพติด จนกระทั่งเจ้าตัวทนแรงกดดันไม่ไหวเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เนื่องจากเกรงว่าจะถูกตำรวจวิสามัญ
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รู้เห็นกับการอุ้มเหยื่อเรียกค่าไถ่จริง แต่ไม่ทราบว่ามูลเหตุที่เเท้จริงว่ามาจากปัญหาการติดค้างเงินค่ายาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สภ.สิงหนคร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป