MGR Online - “อายุตม์” เผย ยอดโควิด-19 รายวันติดเชื้อ 457 ราย รักษาหาย 684 ราย เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้มีโรคประจำตัว ชี้ เรือนจำสีแดงส่วนใหญ่พบเชื้อน้อยลง-รักษาหายเพิ่ม
วันนี้ (17 มิ.ย.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มิ.ย. 64 เวลา 16.00 น.) ว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 457 ราย รักษาหายวันนี้ 684 ราย เสียชีวิต 2 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 6,295 ราย โดยภาพรวมไม่พบการแพร่ระบาดเรือนจำ 129 แห่ง และพบการแพร่ระบาด 12 เรือนจำคงเดิม
“จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากการ SWAB เพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำในเรือนจำทัณฑสถานที่เป็นเรือนจำสีแดงทั้งหมด ขณะที่จำนวนผู้รักษาหายวันนี้อยู่ที่ 684 ราย รวมหายป่วยสะสม 27,231 ราย หรือ 80 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด สำหรับผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้เข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยรายแรกเป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 71 ปี มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เกาต์ ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir Dexamethasone พร้อมทั้งยาโรคประจำตัวผู้ป่วย และได้ X-ray ปอดพบปอดอักเสบ จึงได้ส่งต่อการรักษาที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 64 และได้รับรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา”
นายอายุตม์ เผยว่า ส่วนรายที่ 2 เป็นผู้ป่วยชาย อายุ 52 ปี มีโรคประจำตัว มะเร็งตับ โรคตับแข็ง ร่วมกับภาวะน้ำท่วมปอด แพทย์ได้ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir Lactulose Aldactone และ oxygen cannular แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น ผู้ป่วยมีอาการซึมลง ไม่รู้สึกตัว วัดสัญญาณชีพไม่ได้และเสียชีวิตลงในที่สุด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ประสานญาติ และดำเนินการตามกระบวนการส่งศพผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัย
นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเรือนจำทัณฑสถาน ได้ผ่านพ้นช่วงสภาวะวิกฤตมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยจากการประเมินสถิติทั้งในด้านของเรือนจำสีแดงที่สามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ ด้านจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงในหลายพื้นที่ รวมถึงจำนวนผู้ป่วยรักษาหายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาที่ลดลงเรื่อยๆ ซึ่งหากยังคงควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง คาดว่า จะสามารถกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ในเร็วๆ นี้ โดยแผนดำเนินการต่อจากนี้ จะเป็นการเตรียมแผนเพื่อคืนพื้นที่เรือนจำทัณฑสถาน ให้สามารถรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ได้ปกติ โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังให้ครอบคลุมทุกราย ควบคู่กับแผนการฉีดวัคซีนของประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นนโยบายที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้เน้นย้ำเป็นพิเศษแก่กรมราชทัณฑ์