สืบสวน สน.บางนา ตรวจกล้องวงจรปิดตามรวบ 2 โจรขี่ จยย.ตระเวนตีเนียนเป็นลูกค้า ลักทรัพย์ตามร้านสะดวกซื้อ ไปขายตลาดนัด อ้างพิษโควิดไม่มีงานทำ
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 17 มิ.ย. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 ได้สั่งการ พ.ต.อ.มนต์เสก ตระกูลพานิชย์ ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ วงค์สิงห์ สว.สส. รรท.รอง ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ต.เพิ่มสกุล นิลขำ สว.สส.สน.บางนา และ ร.ต.อ.ธนิต กิจพฤกษ์ รอง สว.สส.สน.บางนา ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา จับกุมตัวนายพรชนะชัย หรือ ไผ่ ปะละกัง อายุ 19 ปี และ นายสหรัฐ หรือ มี่ บุญประสงค์ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตระเวนลักทรัพย์ตามร้านสะดวกซื้อ
พร้อมของกลางเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า ลายมิกกี้เมาส์ จำนวน 1 ตัว กางเกงขาสั้นสีครีม จำนวน 1 ตัว กระเป๋าผ้าสะพายข้างสีแดง แถบลายดำ-ขาว-แดง จำนวน 1 ใบ รองเท้าแตะสีแดง ลายวันพีช จำนวน 1 คู่ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสแมช สีแดง หมายเลขทะเบียน บยง 210 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน กุญแจรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า หมายเลขทะเบียน บยง 210 กรุงเทพฯ จำนวน 1 ดอกเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง ลายมิกกี้เมาส์ จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ ขายาว จำนวน 1 ตัว กระเป๋าคาดอก สีน้ำเงิน-แดง จำนวน 1 ใบ และรองเท้าแตะสีดำ จำนวน 1 คู่ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์ แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ต่อเนื่อง บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 14 ล็อก 13 ซ.2 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน เวลา 14.37 น. น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายซึ่งเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางนา ว่า ผู้เสียหายได้ตรวจสอบสินค้าภายในร้านสะดอกซื้อปาก ซ.อุดมสุข 58 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กทม. พบว่า มีสินค้าหายไป 5 รายการ มูลค่า 1,475 บาท จึงเดินทางมาแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายและติดตามทรัพย์สินของตนกลับคืน
ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางนา หลังได้รับแจ้งเหตุ ได้ทำการสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่จุดเกิดเหตุพบคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คน อายุประมาณ 20 ปีเศษ ขับขี่รถจักรยานยนต์ สีแดง ไม่ทราบทะเบียน มาด้วยกัน ผู้ขับขี่สวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีแดง สวมกางเกงยีนส์ขายาว สะพายกระเป๋าคาดอก สวมรองเท้าแตะสีดำ ส่วนผู้นั่งซ้อนท้ายสวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า สวมกางเกงขาสั้นสีครีม สะพายกระเป๋าผ้าสีแดง สวมรองเท้าแตะสีแดง มาจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายลงจากรถเข้าไปทำทีเป็นลูกค้า มาซื้อสินค้า แต่กลับลักเอาสินค้าภายในร้านสะดวกซื้อก่อนที่จะกลับมาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายอีกคนคร่อมรออยู่พากันหลบหนีไป
จากการสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยกล้องดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ตลอดจน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. และ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จเรตำรวจ (สบ8) ปฏิบัติราชการ บช.น. ซึ่งพบว่ากล้องวงจรปิดนี้ สามารถบันทึกภาพเส้นทางหลบหนีของคนร้าย โดยคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ คันดังกล่าวเป็นยานพาหนะในการหลบหนีไปจอดภายในอพาร์ทเม้นท์ แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
กระทั่งวันนี้ ร.ต.อ.ธนิต จึงนำกำลังจึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบรถจักรยานยนต์ คันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ จอดอยู่บริเวณลานจอดรถหน้าอพาร์ตเมนต์นี้ จึงได้ทำการดักซุ่มรอบริเวณใกล้เคียง รอประมาณ 20 นาที พบชายไทยอายุประมาณ 20 ปีเศษ มีตำหนิรูปพรรณตรงตามคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ เดินลงมาจากอพาร์ตเมนต์ไปคร่อมรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวแล้วกำลังจะขับขี่ออกไป ทางตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงเข้าไปแสดงตัวทำการจับกุม นายพรชนะชัย หรือ ไผ่ ได้ก่อนขยายผลไปจับกุมนายสหรัฐ หรือ มี่ ได้ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 14 ล็อค 13 ซ.2 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางทั้งหมด และคุมตัวสอบสวน ที่ สน.บางนา
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันลักทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ ในลักษณะเดียวกันมานี้แล้วประมาณ 3-4 ร้าน โดยเริ่มแรก นายพรชนะชัย เป็นผู้ชักชวนให้นายสหรัฐ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ มาเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ แล้ว นายพรชนะชัย จะเป็นผู้เข้าไปลักสินค้าในร้านสะดวกซื้อเอง ด้วยวิธีทุกครั้งจะสะพายกระเป๋าสะพายข้างเข้าไป จากนั้นหยิบสินค้าตามชั้นวางมาใส่ในกระเป๋าที่เตรียมมา เมื่อลักทรัพย์เสร็จแล้วจะเดินออกจากร้าน และขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดรอหลบหนีทันที
โดย นายสหรัฐ จะได้เงินค่าแรงจากนายพรชนะชัย จำนวน 300-400 บาท หลังจากที่ลักสินค้าเสร็จนายพรชนะชัย จะนำสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโฟมล้างหน้า ครีมทาผิวไปจำหน่ายที่ตลาดนัดวัดตระกล่ำ เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซ.14 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ได้เงินประมาณ 1,000 บาท ต่อครั้ง ก่อนนำเงินที่ได้ไปใช้จ่าย เนื่องจากไม่มีอาชีพทำเป็นหลักแหล่ง ประกอบกับช่วงนี้มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เงินไม่พอใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการตรวจสอบประวัติพบว่า นายสหรัฐ หรือ มี่ เคยถูกตำรวจ สน.บางนา จับกุมในคดีจำหน่ายยาเสพติด เมื่อปี 2557 อีกด้วย ทั้งนี้ ทางตำรวจค้องทำการสืบสวนขยายผลอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
