xs
xsm
sm
md
lg

รวบ “หนุ่มลอดช่อง” ส่งไอซ์ 3 กก.พร้อมยาอีก 1,320 เม็ด ทางอีเอ็มเอสเข้าสิงคโปร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ชุดปฏิบัติการ AITF ตามจับกุม “เถ่า ซื่อ จี้” ชาวสิงคโปร์ คาห้องพักย่านลาดพร้าว หลังสืบทราบเป็นผู้ส่งไอซ์ 3 กก. ยาอี 1,320 เม็ด ทางพัสดุอีเอ็มเอสไปยังประเทศสิงคโปร์ สอบสวนขยายผลเพิ่มเติม

วันนี้ (3 มิ.ย.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส., พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) และ นายเดชา วิชัยดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนปราบปรามยาเสพติด กรมศุลกากร ร่วมแถลงการจับกุม นายเถ่า ซื่อ จี้ อายุ 27 ปี ชาวสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับที่ลักลอบขนยาเสพติด (ไอซ์) ซุกซ่อนไปกับพัสดุส่งประเทศสิงคโปร์

นายวิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเดือน พ.ย. 63 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดสิงคโปร์ (CNB) ว่ามีการตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศซุกซ่อนยาเสพติด (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 3 กก. ถูกส่งจากประเทศไทยไปยังประเทศสิงคโปร์ ผ่านทางเครื่องบิน ต่อมาชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (AITF) ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส., ตำรวจปราบปรามยาเสพติด, ศุลกากร และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ได้สืบสวนขยายผลผู้ส่งยาเสพติดในประเทศไทย จึงได้เฝ้าระวังพัสดุไปยังสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 64 ชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (AITF) สามารถตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศด่วนพิเศษ (EMS) ปลายทางประเทศสิงคโปร์ จำนวน 2 ชิ้น ซุกซ่อนยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 3 กก. และ เอ็กตาซี่ จำนวนประมาณ 1,320 เม็ด ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ

นายวิชัย กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนพบว่าผู้ส่งพัสดุ คือ นายเถ่า ซือ จี้ ชาวสิงคโปร์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อขออนุมัติหมายจับบุคคลดังกล่าว ต่อมา ศาลอาญาอนุมัติหมายจับและนำไปสู่การจับกุม วันนี้ (3 มิ.ย.) เวลาประมาณ 07.00 น. ชุดปฏิบัติการภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน ร่วมกันเข้าตรวจค้นห้องพักแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว พร้อมแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน), 3-4 เมทิลลีนไดออซี่เมทแอมเฟตามีน ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

“นอกจากนี้ ยังพบของกลางที่ใช้เป็นพยานหลักฐาน และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้บรรจุ ซุกซ่อนยาเสพติด ลักษณะเช่นเดียวกับที่เคยตรวจยึดพร้อมยาเสพติด ได้แก่ เครื่องขยายเสียง อุปกรณ์การหีบห่อ เครื่องชั่งดิจิทัลและอีกหลายรายการ นอกจากนี้ ป.ป.ส. ในฐานะหน่วยงานกลางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งการประสานงานในระดับอาเซียน และระดับนานาชาติ ในคดีนี้ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลให้กับทางหน่วยปราบปรามยาเสพติดกลาง ประเทศสิงคโปร์ (CNB) เพื่อดำเนินการ กับเครือข่ายนี้ในประเทศสิงคโปร์ต่อไป” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว

ด้าน พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศไทย ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส., บช.ปส., กรมศุลกากร และศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ส่งผลให้สามารถจับกุมตัวการผู้ส่งยาเสพติดออกจากประเทศไทย ไปยังประเทศสิงคโปร์ได้ จากนี้ในส่วนของพนักงานสอบสวนในคดีจะร่วมกับชุดสืบสวน ทำการขยายผลการจับกุมเพื่อดำเนินการกับเครือข่ายนี้

ส่วนทาง นายเดชา เผยถึงข้อมูลสถิติการตรวจยึดยาเสพติด ระหว่างเดือน ต.ค. 63 - พ.ค. 64 จำนวน 10 คดี แยกเป็นของกลาง เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) 5,160 กรัม เอ็กตาซีหรือยาอี 2,910 เม็ด กัญชา 2,171 กรัม คีตามีน 515 กรัม รวมมูลค่าทั้งสิ้น 12,859,565 บาท

ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวปิดท้ายว่า ตามนโยบาย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ สั่งการให้ สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลกลุ่มนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบขนยาเสพติดซุกซ่อนไปกับสิ่งของไปยังต่างประเทศหลายคดี พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมทรัพยากรแก้ไขปัญหาในทุกมิติ ได้เร่งรัดและดำเนินการสืบสวนขยายผล ตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อใช้ พ.ร.บ.มาตรการฯ พ.ศ. 2534 ยึดทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด






กำลังโหลดความคิดเห็น