xs
xsm
sm
md
lg

ศาลให้ประกันตัว ผู้ต้องหาเรียกค่าไถ่ชาวไต้หวัน ปมขัดแย้งธุรกิจ วงเงินคนละ 3 แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ประกันตัว ผู้ต้องหาเรียกค่าไถ่นักธุรกิจไต้หวันปมขัดแย้งธุรกิจถุงมือมูลค่า 93 ล้าน วงเงินคนละ 3 แสนบาท พร้อมติดกำไลข้อเท้า(อีเอ็ม) -ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (17 พ.ค.) ร.ต.ท.หญิงธิดา เดชวุฒิกุล พนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อได้นำตัว นายลูอิส วิลเลี่ยม ซิสติน อายุ 51 ปี ,นายเจเรมี่ ฮิวส์ แมนเชสเตอร์ อายุ 40 ปี ,นายเอกบดินทร์ ประสิทธิ์ฤทธิ์ อายุ 28 ปี และพ.ต.ท.กฤษณพร ทัพทวี อายุ 59 ปีผู้ต้องหาทั้ง 4 มาฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันเป็นซ่องโจรร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวร่วมกันเรียกค่าไถ่บุคคล อายุกว่า 15 ปี และเป็นคนกลางเรียกรับค่าไถ่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา210 ,309 , 310 , 313และ 314 ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

คำร้องระบุพฤติการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุนายเหวินหยู่ฉุน สัญชาติไต้หวันผู้เสียหายซึ่งจะเข้ามาทำงานกับนายจ้างที่ บริษัท ตั้งอยู่ประเทศไต้หวัน ปรากฏว่านายจ้างได้ติดต่อซื้อขายถุงมือยางกับนายลูอิส ผู้ต้องหาที่ 1 เมื่อนายจ้างได้จัดส่งสินค้าให้กับผู้ต้องหาที่ 1 ไปแล้วปรากฏว่าผู้ต้องหาที่ 1 ได้ขอเปลี่ยนสินค้า หากแต่นายจ้างของผู้เสียหายปฏิเสธจึงทำให้นายลูอิส ผู้ต้องหาที่ 1 ไม่พอใจนายจ้าง จึงให้ผู้เสียหายเดินทางไปประเทศไทยเพื่อหวังพูดคุยเจรจากับนายลูอิส ผู้ต้องหาที่ 1 ขณะเดียวกันจะได้สำรวจหาตลาดเพื่อหาซื้อถุงมือยางให้กับเจ้านายไปด้วย จากนั้นปรากฎว่านายลูอิสผู้ต้องหากับพวกทั้งคนไทยและคนต่างด้าวได้ร่วมกันกระทำความผิด โดยหลอกให้ผู้เสียหายออกมาพบที่ร้านอาหารในซอยสุขุมวิท 36 แต่กลับล็อกตัว ใส่กุญมือในช่วงกลางวัน และลากไปยังห้องพักในบริเวณใกล้เคียง จากนั้นบังคับเรียกเงิน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ผู้เสียหายพยายามเจรจาต่อรองว่า จะติดต่อกับบริษัทแม่ในต่างประเทศให้ชำระหนี้ดังกล่าว เพราะตัวเองไม่มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงิน ผู้ต้องหาจึงยอมปล่อยตัวผู้เสียหายออกมา กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมดำเนินคดี

ท้ายคำร้องระบุว่า พนักงานสอบสวนจะสอบพยานบุคคลอีก 10 ปากและตรวจสอบพยานเอกสารอื่นๆ จึงขอฝากขังเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 17-28 พ.ค.นี้ และคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญเกรงว่าปล่อยตัวไปแล้วจะหลบหนี

ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขัง ภายหลญาติและผู้ต้องหาทั้ง 4 คนยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว

ศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาคำร้องของผู้ต้องหาทั้ง 4 คนแล้ว อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยตีราคาประกันในวงเงินคนละ 300,000 บาทและใส่กําไลข้อเท้าข้อเท้า (EM) โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และต้องมารายงานตัวตามกำหนดอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อปลายปี 63 นายลูอิส ผู้ต้องหา ได้ติดต่อขอซื้อถุงมือยางกับ บ.แพดดี้เดอะรูมฯ ซึ่งแต่งตั้งให้ บ.คอลเลกชั่นฯ ของ นางเอมิลี่ เป็นผู้เจรจาธุรกิจ แต่ปรากฏว่าการทำธุรกิจเกิดความขัดแย้งกันจน นายลูอิสได้รับความเสียหายกว่า 93 ล้านบาท ประกอบกับทราบว่า นายเวน ยู ชุง ชาวไต้หวัน ผู้เสียหาย หนึ่งในตัวแทนบริษัทของนางเอมิลี่ พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย จึงว่าจ้างให้ นายไมเคิล ชาวอิสราเอล ซึ่งเปิดบริษัทนักสืบเอกชนในประเทศไทยให้ช่วยติดตามทรัพย์สินคืนจากคู่กรณี

ต่อมานายไมเคิล และพวกซึ่งมีทั้งคนต่างชาติและคนไทย ได้วางแผนติดต่อกับนายเวน ยู ชุง ทำทีซื้อถุงมือยาง ก่อนนัดหมายมาพบเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านทองหล่อเมื่อวันที่ 28 มี.ค. กระทั่งเมื่อพบเจอผู้เสียหายกำลังนั่งสั่งอาหารรับประทานจึงเข้าจู่โจมจับตัวล็อกคอใส่กุญแจมือ แล้วพาออกจากร้านอาหารไปยังห้องพักรายวันแห่งหนึ่งอยู่ห่างประมาณ 200 เมตร โดยภายในห้องพักดังกล่าวมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกกลุ่มหนึ่งรออยู่ จากนั้นจึงลงมือทำร้ายร่างกาย ก่อนจะใช้โทรศัพท์ของผู้เสียหายโทร.ติดต่อไปหานางเอมิลี่ เจ้านายของผู้เสียหาย เพื่อข่มขู่เรียกเงินจำนวน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโทรศัพท์ไปข่มขู่เรียกเงินจากญาติของผู้เสียหายอีก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่นางเอมิลี่ และญาติของผู้เสียหายไม่ยินยอม จึงขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตและตำรวจ

จากนั้นเมื่อผู้ต้องหาเห็นท่าไม่ดีจึงพาผู้เสียหาออกจากห้องเช่า เดินทางไปที่ร้านอาหารแห่งที่สองใน ซ.สุขุมวิท 24 เพื่อไปพูดคุยกับนายลูอิส ก่อนจะพาขึ้นรถขับออกไปที่ สน.ทองหล่อ เมื่อไปถึง สน.ทองหล่อ กลุ่มผู้ต้องหา รวมถึงอดีตตำรวจสันติบาลคนดังกล่าวก็ได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ แต่ทางแต่ผู้เสียหายไม่ยอมลงชื่อ กลุ่มผู้ต้องหาจึงยอมปล่อยผู้เสียหายแล้วเดินออกไป ส่วนผู้เสียหายหลังจากเป็นอิสระจึงเข้ารักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่ง ก่อนกลับเข้ามาแจ้งความที่ สน.ทองหล่ออีกครั้ง จนมีการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดรวม 8 คน เป็นต่างชาติ 7 คน ไทย 1 คน กระทั่งเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การภาคเสธ จึงแจ้งข้อหาก่อนนำตัวส่ง สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาชาวต่างชาติทั้ง 2 รายที่ถูกจับกุมนั้นยอมรับว่าตนเองเคยเป็นอดีตทหารนาวิกโยธินประเทศอเมริกามาก่อน เคยผ่านการรบในสงครามอ่าวเปอร์เซียจึงชำนาญเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ แต่เนื่องจากรายได้ไม่เป็นไปตามที่ต้องการจึงได้ลาออกมาเป็นทหารรับจ้าง ผ่านสนามรบมาหลายครั้ง ก่อนจะมาทำงานให้กับบริษัทรับจ้างทวงหนี้ของนายไมเคิล


กำลังโหลดความคิดเห็น