xs
xsm
sm
md
lg

รอง ผบ.ตร.สั่งตรึงแนวชายแดนเข้ม สกัดแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง หวั่นนำเชื้อโควิดมาแพร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. (แฟ้มภาพ)
MGR Online - รอง ผบ.ตร.สั่งการทุกหน่วยเพิ่มความเข้มตรึงกำลังแนวชายแดนป้องกันแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง หวั่นนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ในไทย กำชับตั้งจุดตรวจจุดสกัดทุกช่องทาง

วันนี้ (10 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปม.ตร.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาแพร่ในประเทศไทย ตนจึงได้ออกคำสั่งเป็นหนังสือ วิทยุในราชการ ตร. ด่วนที่สุด ที่ ศปม 5.31/183 ถึง ผบช.น.ภ.1-9 ผบช.ก. สตม. ตชด. และ สยศ.ตร. ใจความว่า อ้างถึงข้อสั่งการในการประชุม ศปก.ศบค. ประจำวันที่ 3 พ.ค. 46 ให้ ศปม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดน โดยให้จัดลำดับความสำคัญตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย กัมพูชา เมียนมา และ ลาว ตามลำดับ เพื่อให้การปฏิบัติตามข้อสั่งการของ ศปก.ศบค.ในกรณีดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ทุกหน่วยประชุมวางแผนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความเข้มในการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ให้เพิ่มความเข้มการเฝ้าระวังและสกัดกั้นคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ช่องทางธรรมชาติ รวมทั้งการตั้งจุดตรวจพื้นที่แนวชายแดนและจุดตรวจสกัดกั้นพื้นที่ตอนใน

“ให้จัดทำแผนการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่เป็นรูปธรรมในภาพรวมของ บช.ภ.และลงรายละเอียดระดับ บก.ภ.จว. โดยให้มีการวิเคราะห์จุดยุทธศาสตร์ เพื่อตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ที่สามารถครอบคลุมการสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรทั้งทางเท้า ทางรถ และทางน้ำ มีการจัดกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นยานพาหนะให้เพียงพอได้ตลอด 24 ชม. ขณะปฏิบัติหน้าที่ต้องจัดให้มีการบันทึกภาพเคลื่อนไหวชนิดที่สามารถดูภาพได้แบบบัจจุบัน (Real time) เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งให้ บช.ภ.รายงานแผนการสกัดกั้นฯ ในรูปแบบ Power point ทางกลุ่มไลน์ ศปม.ตร. และ E-mail : al-3282@hotmail.com ภายใน 11 พ.ค. 64 แล้วให้ สยศ.ตร.(ผค.) รวบรวมเสนอ ตร.ภายในวันถัดไปเพื่อทราบและดำเนินการ” หนังสือคำสั่งดังกล่าวระบุ

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ยังได้มีคำสั่งเป็นบันทึกข้อความด่วนที่สุด เรื่องแนวทางการกักกันแรงงานต่างด้าวและผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ในสถานที่กักกันรูปแบบเฉพาะ ของ บช.ตชด. ถึง ผบช.น.ภ.1-9 ก.ตชด. สตม. ส. ทท. ปส. สอท. สงป. และ สยศ.ตร.ใจความว่า ด้วย ครม.มีมติเมื่อ 16 มี.ค. 2564 อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจัดตั้ง Organizational Quarantine (OQ) สำหรับแรงานต่างด้าวและผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของ บช.ตชด.

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้กำหนดแนวทางการกักกันแรงงานต่างด้าวและผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ในสถานที่กักกันรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organizational Quarantine : OQ) ของ บช.ตชด. ดังนี้ ให้สถานที่กักกันรูปแบบเฉพาะองค์กรของ บช.ตชด.จำนวน 14 แห่ง ในพื้นที่ 10 จังหวัดได้แก่
-ร้อย ตชด.114 ต.ปะตง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี
-ร้อย ตชด.115 ต.โป้งเก่า อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
-ร้อย ตชด.126 ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
-ร้อย ตชด.127 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
-ร้อย ตชด.245 ต.จอมเสด็จ อ.เมือง จ.หนองคาย
-ร้อย ตชด.327 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย
-ร้อย ตชด.344 ต.แม่ต้าน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
-ร้อย ตชด.345 ต.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก
-ร้อย ตชด.346 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก
-ร้อย ตชด.136 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
-ร้อย ตชด.137 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
-ร้อย ตชด.156 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
-ร้อย ตชด.415 ต.บางนอน อ.เมือง จง.ระนอง
-กก.9 บก.กฝ.บช.ตชด. ต.เขามีเกียรติ อ.สะเดา จ.สงขลา

อนึ่ง การนำตัวคนต่างด้าวและคนสัญชาติไทยที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เข้ากักกันในสถานที่กักกันๆ ให้ ผบก.ภ.จว.ในพื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบ โดยร่วมกับ ตม.จว. และกองร้อย-กก.ตชด.ขออนุมัติการดำเนินการตามแนวทางนี้ต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกคำสั่งรองรับเพื่อใช้แนวทางการกักกัน ดังนี้ กรณีที่มีการจับกุมคนต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ เมียนมา ลาว และกัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดให้ดำเนินการดังนี้

กรณีจับกุม โดยกล่าวหาว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เพียงข้อหาเดียว อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ให้ผลักดันออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ต้องดำเนินคดีตามหนังสือ ตร. ที่ 1122.122/1670 ลงวันที่ 1 ธ.ค. 2541 โดยให้ผู้จับส่งตัวผู้ถูกจับเข้ากักกันในสถานที่กักกันทันที และให้ผู้จับดำเนินการลง ป.จ.ว. ที่สถานีตำรวจท้องที่ที่จับกุมไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการจับด้วย เมื่อครบระยะเวลากักกันตามที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกำหนดแล้ว ให้สถานที่กักกันประสานแจ้ง ตม.จว.เพื่อดำเนินการผลักดันคนต่างด้าวดังกล่าวออกนอกราชอาณาจักร แต่หากยังไม่สามารถผลักดันกลับได้ให้ ตม.จว.ดำเนินการประสานกับสถานที่กักกัน เพื่อดำเนินการกักตัวคนต่างด้าวรายดังกล่าวเพื่อรอการส่งกลับตามนัย ม.54 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2532 และคำสั่ง สตม.

สำหรับในกรณีจับกุม โดยกล่าวหาว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาอื่นๆ ด้วย และความผิดนั้นต้องระวางโทษที่อยู่ในอำนาจของศาลแขวงหรือศาลอาญา-ศาลจังหวัดให้ดำเนินการดังนี้ให้ผู้จับนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง (ถ้ามี) ส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ หากมีการปล่อยตัวชั่วคราวให้ส่งตัวผู้ต้องหาไปยังสถานที่กักกันทันที

กรณีไม่มีการปล่อยตัวชั่วคราว ให้พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาไปยังสถานที่กักกันโดยเร็ว และยื่นคำร้องขอผัดฟ้อง-ฝากขังต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดในลักษณะการประชุมทางจอภาพหรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้ขังผู้ต้องหาในสถานที่กักกันตามคำสั่งศาลเป็นประการใดให้ปฏิบัติตามนั้น ก่อนครบระยะเวลาการกักกันตามที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกำหนดแล้ว ให้พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่เรือนจำต่อไป

เมื่อการดำเนินคดีเสร็จสิ้นให้ดำเนินการส่งตัวคนต่างด้าวให้ ตม.จว. ตามหนังสือคำสั่ง ตร. ในแนวทางปฏิบัติกรณีคนต่างด้าวตกเป็นผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาในคดีอาญาหรือถึงแก่ความตายโดยผิดธรรมชาติ เพื่อดำเนินการผลักดันคนต่างด้าวดังกล่าวออกนอกราชอาณาจักร หากยังไม่สามารถผลักดันได้ให้ ตม.จว. พิจารณาเหตุจำเป็นในการประสานกับสถานที่กักกันเพื่อดำเนินการกักตัวคนต่างด้าวรายดังกล่าว รอการส่งกลับตามนัย ม.54 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และคำสั่ง สตม. ที่ 124/2564 ลงวันที่ 30 เม.ย. 64 ต่อไป

กรณีจับกุมคนสัญชาติไทยลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ให้ดำเนินการดังนี้ กรณีคนสัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เข้าทางช่องทางที่กำหนดซึ่งต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท ให้ทำการจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการ ดังนี้ กรณีผู้ต้องหายินยอมชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ และชำระค่าปรับเสร็จสิ้นแล้ว ให้นำตัวส่งสถานที่กักกัน กรณีผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบ หรือยินยอมชำระค่าปรับตามที่พนักงานสอบสวนกำหนดแต่ไม่มีเงินชำระค่าปรับในขณะนั้น ให้พนักงานสอบสวนถามชื่อ ที่อยู่ และคำให้การแล้วให้นำตัวส่งสถานที่กักกันแล้วดำเนินคดีต่อไปในภายหลัง 

กรณีคนสัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เข้าทางช่องทางที่กำหนดและกระทำความผิดในข้อหาอื่นๆ ด้วย และความผิดนั้นต้องระวางโทษที่อยู่ในอำนาจของศาลแขวงหรือศาลอาญา, ศาลจังหวัด ให้ดำเนินการเช่นเดียวกัน โดยให้ผู้จับหรือพนักงานสอบสวนแจ้งข้อมูลของคนต่างด้าวหรือคนสัญชาติไทย พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องตามแบบรายงานไปยังสถานที่กักกัน การจับกุมคนต่างด้าว ในกรณีอื่นๆ

นอกจากนี้ ให้ทุกหน่วยดำเนินการตามนัยหนังสือ ตร.ที่ 029.132/ว87 ลงวันที่ 12 พ.ย. 58 เรื่อง แนวทางปฏิบัติกรณีคนต่างด้าวตกเป็นผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาในคดีอาญาหรือถึงแก่ความตายโดยผิดธรรมชาติ-การกักกันแรงงานต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลงระหว่างประเทศ (MOU) หรือแรงงานตามฤดูกาล ให้เป็นไปตามแนวทางที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนด หากพบว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ให้ ตม.จว.ดำเนินการส่งตัวแรงงานต่างด้าวเข้ากักกันในสถานกักกัน แล้วผลักดันออกนอกราชอาณาจักรต่อไป

ทั้งนี้ ในจังหวัดอื่นนอกจาก 10 จังหวัดหาก สตม.พิจารณาเห็นว่าก่อนส่งตัวคนต่างด้าวกลับประเทศต้นทางควรจะกักตัวในสถานที่กักกันให้ประสานสถานที่กักกันนั้นๆ เพื่อให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาเป็นกรณีไป เพื่อดำเนินการตามนัย ม.54 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และคำสั่ง สตม. ที่ 124/2564 ลงวันที่ 30 เม.ย. 64 ต่อไป

ให้ บช.ตชด.ดำเนินการดังนี้ จัดเจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหา ผู้ถูกกักกัน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในบริเวณสถานที่กักกัน หากกำลังไม่เพียงพอให้ขอสนับสนุนไปยัง ผบก.ภ.จว.ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้มีความพร้อมในการรับตัวผู้เข้ากักกันได้ตลอด 24 ชม.
กำลังโหลดความคิดเห็น