ศาลอาญาให้ประกัน “รุ้ง-ปนัสยา” หมิ่นเบื้องสูง หลังแถลงจะไม่พาดพิงสถาบันฯให้เสื่อมเสีย

ศาลอนุญาตให้ประกัน “รุ้ง-ปนัสยา” แกนนำม็อบคณะราษฎรหมิ่นเบื้องสูง หลังมารดายื่นประกัน 2 แสนบาท ศาลชี้เจ้าตัวแถลงยืนยันจะไม่พาดพิงให้สถาบันฯเสื่อมเสีย พฤติการณ์แห่งคดีจึงเปลี่ยนไป โดยวางเงื่อนไขห้ามชุมนุมก่อความวุ่นวายและห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

เมื่อเวลา 17.02 น. วันนี้ (6 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำม็อบคณะราษฎร คดีดำที่ อ.287/2564 ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นฯ ตาม ป.อาญา ม.116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ป.อาญา ม.215, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, กีดขวางทางสาธารณะฯ, ร่วมกันกีดขวางการจราจรฯ, ตั้งวางวัตถุบนถนนอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฯ, ทำลายโบราณสถานฯ, ทำให้เสียทรัพย์ฯ และร่วมกันโฆษณาเครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ป.อาญา ม.112 กรณีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ที่ท้องสนามหลวง และ ม.ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ หลังมารดาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 200,000 บาท พร้อมทั้งแถลงต่อศาลด้วยความสมัครใจว่า หากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จำเลยจะไม่ไปกระทำการใดๆ ที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่เดินทางออกนอกราชอาณาจักร มาศาลตามกำหนดนัดทุกครั้ง และเข้าร่วมกระบวนการพิจารณาคดีของศาล

โดยในวันนี้ได้แต่งตั้งทนายความเข้าร่วมการพิจารณาคดีของศาลแล้ว และจะไม่หลบหนีหากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยินดีที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกประการ โดยมีบิดาและมารดาของจำเลยที่ 5 รวมถึง ผศ.ดร.อดิสร จันทรสุข รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ร่วมกันแถลงยืนยันว่า จำเลยที่ 5 สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่จำเลยที่ 5 ให้ไว้ต่อศาลได้ และจะร่วมกันกำชับดูแลให้จำเลยที่ 5 ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ต่อศาลอย่างเคร่งครัด ซึ่งศาลไต่สวนเสร็จสิ้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา และนัดฟังคำสั่งในช่วงบ่าย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้วเห็นว่า กรณีถือได้ว่าพฤติการณ์แห่งคดีได้เปลี่ยนแปลงไป จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 5 โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยที่ 5 ห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหาตามฟ้องอันเป็นที่เสื่อมเสียแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ หรือเข้าร่วมในกิจกรรมใดที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และห้ามจำเลยที่ 5 เดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาล และให้จำเลยที่ 5 มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด โดยก่อนปล่อยตัวจำเลยที่ 5 ให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทราบ

ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากนี้ศาลอาญาจะออกหมายปล่อยและให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำหมายไปปล่อยตัว น.ส.ปนัสยา ที่ทัณฑสถานหญิงกลางช่วงเย็นวันนี้

ขณะที่แนวร่วมกลุ่มราษฎรที่มาชุมนุมรอลุ้นผลประกัน น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง ต่างแสดงความดีใจที่ทราบผลได้รับการประกัน และแยกย้ายจากหน้าศาลอาญา เพื่อไปรอต้อนรับ น.ส.ปนัสยา ที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป

ด้าน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยภายหลังศาลให้ประกัน น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง ว่า วันนี้ศาลกำหนด 3 เงื่อนไข ไม่ได้มีเรื่องการติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EM เนื่องจากบิดา มารดา และอาจารย์ได้ยืนยันรับปาก ว่าจะดูแลพฤติกรรมของจำเลย

คาดว่า ในช่วงค่ำวันนี้เรือนจำก็จะปล่อยตัว รุ้ง ตามคำสั่งศาล และมีข้อมูลว่ามีความพยายามจะนำหมายจับค้างเก่าขอมาอายัดตัวไปดำเนินคดี ทีมทนายความจึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีหมายจับค้างเก่าอีกหรือไม่ แต่เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบ

ส่วนกรณีของ นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน จำเลยที่ 1 และ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ จำเลยที่ 17 ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการเรื่องคำร้องขอปล่อยชั่วคราวได้ เนื่องอยู่ระหว่างกักตัว โดยจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) และศาลได้นัดพร้อมไว้วันที่ 12 พ.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ทีมทนายความพยายามเร่งรัดให้กรมราชทัณฑ์ทำหนังสือรับรองเพนกวิน และ แอมมี่ ว่า ครบกำหนดกักตัว เพื่อยื่นให้ศาลพิจารณาเบิกตัวมาไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว

ส่วนประเด็นของ นายอานนท์ นำภา ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 มารดาของทนายอานนท์ จึงยื่นเรื่องถึงกรมราชทัณฑ์ขอนำตัวนายอานนท์ ย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลเอกชน เบื้องต้นทราบว่า กรมราชทัณฑ์ยินดีที่จะให้นำตัวไปรักษา แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล โดยมีครอบครัวเป็นผู้จัดหาโรงพยาบาลเอง

และล่าสุด ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ยินดีรับตัวนายอานนท์ ไปทำการรักษา

ส่วนแกนนำคนอื่นๆ ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ เช่น นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ อยู่ระหว่างรอผลการตรวจโควิด-19 ว่าจะติดเชื้อหรือไม่ เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับนายอานนท์ทางทนายความอยู่ระหว่างเร่งรัดผลการตรวจจากกรมราชทัณฑ์