xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก ตร.ยันตำรวจไม่ตะพึดตะพือจับ วอน ปชช.สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร.
MGR Online - โฆษก ตร. วอน ปชช.สวมหน้ากากอนามัยก่อนออกนอกบ้านทุกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ย้ำตำรวจใช้วิจารณญาณในการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ตะพึดตะพือจับ

วันนี้ (27 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) กล่าวถึงแนวทางการดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เมื่อออกนอกเคหสถาน ว่า การปรับครั้งแรกต้องปรับขั้นต่ำ 6,000 บาท ความผิดครั้งที่ 2 จำนวน 12,000 บาท และ ความผิดครั้งที่ 3 สูงสุดเป็นเงิน 20,000 บาท อย่างไรมีหลักเกณฑ์การลดค่าปรับได้ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นตามสภาพของบุคคล เป็นผู้ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ หรือผู้ที่มีสภาพสังคมเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเสียค่าปรับ พนักงานสอบสวนสามารถพิจารณาให้น้อยกว่าที่กำหนดได้ โดยต้องไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 นั่นก็คือ ไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ทั้งนี้ หากผู้กระทำผิดไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ หรือ ไม่สามารถนำค่าปรับมาชำระตามที่เปรียบเทียบปรับได้ พนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนคดีส่งฟ้องศาล เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจพิจารณาต่อไป

“ผู้ที่ออกข้อบังคับ คือ กรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจเป็นฝ่ายปฏิบัติ ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่อยากดำเนินคดี แต่ก็ต้องทำเพราะเป็นหน้าที่ ซึ่งตำรวจจะใช้วิจารณญาณในการดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืน จึงขอให้พี่น้องประชาชนคำนึงถึงเจตนารมณ์ในการออกข้อบังคับเพื่อระงับยับยั้งโรคระบาด เนื่องจากข้อประกาศของแต่ละจังหวัดมีเจตนาที่เขียนไว้ชัดเจน ว่า เมื่อออกนอกเคหสถานให้สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า จึงขอให้พี่น้องประชาชนพิจารณาปฏิบัติตามข้อประกาศ ส่วนเรื่องข้อสงสัยเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในรถยนต์นั้น เชื่อว่าคงไม่มีตำรวจ หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปสอดส่องผู้กระทำผิด ตั้งใจจับผิดขนาดนั้น เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร อยากให้โฟกัสเรื่องการรณรงค์สวมหน้ากากอนามัยเพื่อยับยั้งการแพร่ะระบาดของเชื้อโรคมากกว่า” โฆษก ตร.กล่าวและว่า ขณะนี้ได้ทบทวนซักซ้อมทำความเข้าใจอัตราค่าปรับแล้ว ปัญหากฎหมายใหม่ที่เราไม่เคยใช้กันมาก่อน ตนคิดว่าต้องปรับตัวอีกสักระยะหนึ่ง แต่มั่นใจว่าผู้ปฏิบัติบังคับใช้กฎหมายแบบวิญญูชนทั่วไป ไม่จับตะพึดตะพือ โดยจะรับข้อคิดเห็นจากสังคม เพื่ออุดช่องว่าง
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวถึงการเตรียมใช้สายด่วน 191 เป็นสื่อกลางในการประสานรับเรื่องราวจากประชาชน เพื่อส่งต่อข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-​19 หลังพบว่า มีปัญหาเกี่ยวกับศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ไม่เพียงพอในการรับเรื่องจากประชาชนทั่วประเทศ โดยขั้นตอนยังอยู่ระหว่างซักซ้อมการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะแถลงความชัดเจนเรื่องนี้อีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้ (28 เม.ย.) เวลา 10.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น