xs
xsm
sm
md
lg

รวบโจรหลอกขายของตามกลุ่มเฟซบุ๊ก เหยื่อทวงสินค้าโดนด่ากลับ-บล็อกหนี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รวบโจรหลอกขายของตามกลุ่มเฟซบุ๊ก เหยื่อทวงสินค้าโดนด่ากลับ-บล็อกหนี พบเคยถูกตัดสินจำคุกเมื่อปี 2562 แต่รอลงอาญา 2 ปี เผยใช้บัญชีธนาคารหลอกโอนเงินทั้งหมด 18 บัญชี โดยยืมคนรู้จักมา ให้ค่าตอบแทน 500-1,000 บาท
วันที่ 19 เมษายน 2564 พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ธิติพงษ์ สียา  พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ภักดีดินแดน พ.ต.ท.เฉลิมพงษ์ ธรรมมียะ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ และ พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษฯ, นำกำลังจับกุมตัว นายขวัญชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาหลอกขายของมือสองผ่านเฟซบุ๊ก โดยสามารถจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 88/10 หมู่ที่ 9 ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับทางตำรวจหลังถูกคนร้ายใช้วิธีการสร้างบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยปิดบังชื่อ-สกุลจริง แล้วใช้บัญชีเฟซบุ๊กที่ทำขึ้นสมัครเข้าไปในกลุ่ม หรือเข้าไปกดติดตามในเพจขายของมือสอง จำพวกอะไหล่รถมือสอง, อุปกรณ์เครื่องมือช่างต่างๆ เมื่อเข้าไปเป็นสมาชิกในกลุ่ม หรือเพจขายของมือสอง หรืออุปกรณ์เครื่องมือช่างต่างๆ แล้ว หากมีสมาชิกในกลุ่มคนใดโพสต์ต้องการซื้อ-ขายสินค้า หรือเพจใดมีการเสนอขายสินค้า ผู้ต้องหาก็จะสวมรอยโดยการทักหาสมาชิกในกลุ่มหรือเพจที่สนใจสินค้าแต่ละรายการ ด้วยวิธีการทักไปในช่องทาง messenger ของแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กส่วนตัวของสมาชิกที่สนใจสินค้าในกลุ่มหรือเพจนั้นๆ ก่อนจะทำการหลอกให้ผู้เสียหายพอใจในราคาที่ต่ำกว่าราคาขายในท้องตลาด และเสนอให้โอนเงินมัดจำหรือโอนเงินเต็มจำนวนมาที่บัญชีธนาคารซึ่งผู้ต้องหาเตรียมไว้ เมื่อผู้เสียหายโอนเงินสำเร็จผู้ต้องหาก็จะนิ่งเฉย ไม่ส่งสินค้า

เมื่อมีผู้เสียหายทวงถาม หรือหากผู้เสียหายรายใดมีการด่า ผู้ต้องหาก็จะทำการด่ากลับ หรือบล็อกผู้เสียหายรายนั้นๆ ทันที ทั้งนี้ เมื่อก่อเหตุจนมีผู้เสียหายจำนวนหลายรายเข้าไปโพสต์ประจาน ร้องเรียนในเพจเกี่ยวกับการร้องทุกกลโกง ผู้ต้องหาก็จะทำการสร้างบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวใหม่ และกระทำการในลักษณะนี้ต่อเนื่องตลอดมา แต่ยังคงใช้บัญชีธนาคารเดิมสำหรับรองรับเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย ทางตำรวจจึงรวบรวมหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพิษณุโลก ที่ จ.132/2563 ลงวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2564 จนกระทั่งทางตำรวจสามารถจับกุมตัวไว้ได้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหายังมีหมายจับที่ยังหลบหนีอีก 2 หมายจับ คือ เลขคดีที่ 277/2561, เลขที่หมายจับที่ 278/2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกง” (สถานะหลบหนี) และเลขคดีที่ 42/2562, เลขที่หมายจับที่ 114/2562 ซี่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการ ผู้ใดกระทำความผิดโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมฯ (สถานะหลบหนี)” ซึ่งตำรวจชุดจับกุมได้ทำหนังสือประสานเพื่อให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบดำเนินการอายัดตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย

สอบสวน ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ ตนเองเป็นตัวการในการกระทำความผิดดังกล่าว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ถึงปัจจุบัน โดยเคยถูกจับกุมเมื่อปี พ.ศ. 2562 ศาลมีคำพิพากษาตัดสินให้ลงโทษจำคุกแต่เนื่องจากไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อนจึงให้รอลงโทษทางอาญา 2 ปี ก่อนจะออกมาและกระทำความผิดเช่นเดิมอีก เนื่องจากเป็นช่องทางหาเงินได้ง่ายประกอบกับตนเองไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง

สำหรับบัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหาเคยใช้ในการรองรับเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย คือ จำนวน 18 บัญชี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบัญชีธนาคารส่วนตัวของผู้ต้องหา และบัญชีธนาคารของบุคคลที่ผู้ต้องหารู้จัก ซึ่งผู้ต้องหาได้ขอยืมบัญชีธนาคารมาใช้ โดยให้ค่าตอบแทนในการยืมบัญชีธนาคารมาใช้ บัญชีธนาคารละ 500-1,000 บาท

ส่วนบัญชีเฟซบุ๊กที่ผู้ต้องหาเคยใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหายตั้งแต่เริ่มก่อเหตุตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย
- ชื่อบัญชี “ธันวา พุฒวันนา”
- ชื่อบัญชี “Skariya Befrane”
- ชื่อบัญชี “ทำดี ไม่มีใครเห็น”
- ชื่อบัญชี “ตัวเล็ก ครับ”
- ชื่อบัญชี “ชัยธวัช มีศิริ”
- ชื่อบัญชี “รถแบตเตอรี่ ตุ๊กปากช่อง” และกลุ่มหรือเพจเฟซบุ๊กที่ผู้ต้องหาเข้าไปร่วมเพื่อหาโอกาสก่อเหตุต่อผู้เสียหายประมาณ 200 กว่ากลุ่ม และเพจเฟซบุ๊ก

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฉ้อโกง โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14(1) วรรคสอง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางกระทุ่ม ภ.จว.พิษณุโลกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น