รองอัยการสูงสุด ติดเชื้อโควิด-19 รถพยาบาลรับไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ หลังไปฉลองงานวันเกิดเพื่อน วปอ.51 เผยในก๊วนติดเชื้อรวม 5 คน
วันนี้ (12 เม.ย.) มีรายงานว่า นายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ รองอัยการสูงสุด ได้ติดเชื้อโควิด-19 โดยมีรถพยาบาลมารับไปแอดมิตที่โรงพยาบาลตำรวจ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนโรค
โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา นายประสิทธิ์ได้ไปรับประทานอาหารกับเพื่อนที่เรียน วปอ.รุ่น 51 ด้วยกันเนื่องจากเป็นวันเกิดเพื่อน ที่ร้านอาหารเเห่งหนึ่งย่านสวนพลู สาทร 1 เป็นห้องวีไอพีมีเฉพาะกลุ่มเพื่อนสนิท โดยหลังจากกลับงานเลี้ยงทราบข่าวภายหลังว่าคนในงานติดมีผู้ติดเชื้อ 1 คนจึงไปตรวจโควิด-19 ที่โรงพยาบาลตำรวจเเละเมื่อผลออกทางโรงพยาบาลจึงส่งรถมารับไปแอดมิต นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้ติดเชื้อจากงานดังกล่าวทราบภายหลังมีจำนวน 5 คน รวมนายประสิทธิ์ที่ตรวจพบเชื้อในวันนี้ด้วย
รองโฆษก อสส.เผย รอง อสส.ติดเชื้อจริง สั่งเฝ้าระวังตรวจ-กักตัวผู้เสี่ยงเเล้ว ยันที่ผ่านมาอัยการยังไม่ประมาท วิกฤตโควิดตั้งเเต่เเรกจนตอนนี้มีอัยการติดเชื้อเเค่ 4 คน
ด้านประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่สื่อมวลชนได้เสนอไป เท่าที่ทราบปกตินายประสิทธิ์ รองอัยการสูงสุด ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เกือบสองเดือนที่ผ่านมาได้มีการระมัดระวังตัว ทุกวันหลังเลิกงานจากที่ทำงานที่ศูนย์ราชการ อาคาร เอ จะไปออกกำลังกายที่สโมสรราชพฤกษ์เเล้วเดินทางกลับบ้าน เเต่วันดังกล่าวเป็นวันเกิดเพื่อนสนิทที่เรียน วปอ.51 รุ่นเดียวกัน ในงานเลี้ยงมีเพื่อนที่ติดเชื้อมาร่วมงานด้วย “เรียกว่าครั้งเดียวแจ็คพอตเลย”
นายประยุทธ กล่าวอีกว่า สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีมาตรการป้องกันขั้นสูงสุดอยู่แล้ว เช่น จัดสถานที่สำหรับประชาชนและสถานที่สำนวนนอกอาคารโดยจัดให้เจ้าหน้าที่มาให้บริการหรือแต่ละอาคารจัดให้มีทางเข้าออกอาคารแต่ละอาคารเพียงทางเดียว นอกจากนี้ในการเฝ้าระวังสำหรับผู้ที่เสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อให้ทำการตรวจคัดกรองเเละกักตัว รวมทั้งจะมีการออกมาตรการเกี่ยวกับการทำงานออกมา เช่น การทำงานเหลื่อมเวลาและการทำงานที่บ้านเป็นต้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันยับยั้งการติดเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางอัยการเองก็ไม่ได้นิ่งดูดายมีการใช้มาตรการป้องกันอย่างข้มข้นมาโดยตลอด ซึ่งจากยอดบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดรวมกว่าหมื่นคน สัดส่วนพนักงานอัยการ 4-5 พันคน ตอนนี้ตรวจพบเชื้อเพียง 4 คน ก็จะเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นต่อไป
