MGR Online - โฆษก ตร.เผยภาพรวมตำรวจทั่วประเทศติดโควิดแล้ว 63 ราย ผบ.ตร.สั่งรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดผับหรูต้นตอแพร่เชื้อ ล้อมคอกกำชับทุกท้องที่คุมเข้มสถานบริการหวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยคลัสเตอร์ทองหล่อ
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) เปิดเผยว่าจากกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในห้วงเวลานี้ที่คาดว่าอาจมีสาเหตุมาจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในพื้นที่ บช.น.นั้น ล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้พื้นที่ตรวจสอบ หาพยานหลักฐาน และรายงานผลให้ทราบโดยเร่งด่วนแล้ว หากพบการกระทำผิด หรือมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามระเบียบกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ยังได้กำชับไปยังผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยที่มีสถานบันเทิง สถานบริการต่างๆ ในพื้นที่ลงไปกำกับ ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อมิให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก
พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า สำหรับตำรวจที่ตรวจพบว่าเป็นโควิด-19 อัปเดตวันที่ 9 เมษายน 2564 รวมจำนวน 63 นาย ประกอบด้วย บช.น.31 นาย, บช.ภ.1 จำนวน 3 นาย, บช.ภ.2 จำนวน 2 นาย, บช.ภ.5 จำนวน 8 นาย, บช.ภ.7 จำนวน 2 นาย, บช.ก.2 นาย, สตม.7 นาย, รพ.ตร.1 นาย, บช.ปส.1 นาย, บช.ส.1 นาย, สทส.1 นาย, สง.ก.ตร.1 นาย วน.1 นาย, บช.สอท.1 นาย, สพฐ.ตร.1 นาย ทั้งหมดเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ส่วนผู้สัมผัส ผู้ใกล้ชิด ได้มีการตรวจหาเชื้อและกักตัวตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดแล้วเช่นเดียวกัน และเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อนี้ ผบ.ตร.ได้เน้นกำชับให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสถานีตำรวจ และหน่วยงานบริการประชาชน รวมทั้งให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวแก่ประชาชนด้วย
ส่วนหน่วยงานที่มีที่ตั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปรับกำลังครึ่งหนึ่งปฏิบัติงานที่บ้าน (work from home) โดยยึดหลัก ลดคน แต่ไม่ลดงานและประสิทธิภาพของงาน ส่วนหน่วยงานบริการประชาชน ให้ปรับกำลังตามความเหมาะสม โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญในลำดับแรก
โฆษก ตร.กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า มาตรการการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว เป็นสิ่งที่ ผบ.ตร.เน้นย้ำกำชับให้มีการปฏิบัติอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม และประชาชนสามารถร่วมปฏิบัติกับทางตำรวจได้ โดยสามารถแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย หรือขอความช่วยเหลือไปที่หมายเลข 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในเทศกาลสงกรานต์นี้ ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย และปลอดโควิด-19 ตำรวจทุกพื้นที่มีความพร้อมในการดูแลประชาชน
พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวด้วยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 ที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องถึง 6 วัน มีการจัดงานตามประเพณี เป็นโอกาสที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของประชาชน ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ระดมกำลังตำรวจ ปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความสะดวก ดูแลเส้นทางการจราจรในเส้นทางหลัก ให้มีความคล่องตัว ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ และลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน
“ในการระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม ผบ.ตร.เน้นย้ำให้มีการบังคับใช้กฎหมาย จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบ่อนการพนัน ยาเสพติด การลักลอบเข้าเมือง และสถานบันเทิง สถานบริการต่างๆ ที่ปิดเกินกฎหมายกำหนด หรือปล่อยให้มีการมั่วสุมก่อความเดือดร้อน รำคาญ โดยกำหนดห้วงเวลาปฏิบัติก่อนเทศกาลฯ ระหว่างวันที่ 7-11 เม.ย. 64 ส่วนในห้วงเทศกาลฯ เน้นการจัดชุดสายตรวจร่วม ชุดเคลื่อนที่เร็ว ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนได้ฉลองตามประเพณี ภายใต้มาตรการทางสาธารณสุข เน้นการตรวจตรา การจัดกิจกรรมสงกรานต์ให้เป็นไปตามที่รัฐบาล (ศบค.) กำหนด เช่น งดรวมกลุ่มหมู่มาก งดประแป้ง สาดน้ำ และจัดการแสดงต่างๆ” โฆษก ตร.ระบุ
นอกจากนี้ ในขณะที่ประชาชนเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ไม่อยู่บ้านหรือที่พักเป็นเวลาหลายวัน เพื่อเป็นการสร้างความสบายใจและลดความกังวลให้กับประชาชน ผบ.ตร.ได้สั่งการสถานีตำรวจทั่วประเทศ ดำเนินการ โครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน (ฝากบ้าน 4.0 ) ระหว่างวันที่ 9-18 เม.ย. เพื่อเสริมการปฏิบัติในการป้องกันอาชญากรรม ประชาชนสามารถขอใช้บริการได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน OBS I SERVICE ฟรีผ่านทางมือถือได้ทั้งระบบ Android และ iOS เพื่อขอฝากบ้านกับตำรวจได้ตลอด 24 ชม. ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้
ส่วนการอำนวยความสะดวกการจราจร ได้สั่งการเน้นย้ำการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และขอความร่วมมือจากประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร และข้อกำหนดต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว และส่วนรวม กวดขันการกระทำผิดใน 10 ข้อหาหลัก โดยเน้นข้อหาเมาแล้วขับ ขับรถใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด และขับรถย้อนศร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักการเสียชีวิตบนท้องถนน ทั้งนี้ ให้มีการตั้งจุดตรวจร่วมและบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในการปฏิบัติ โดยให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติในจุดตรวจร่วม และจุดบริการประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่ทางสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รักษาระยะห่าง ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์หรือสบู่ เมื่อมีการสัมผัสตัวคน หรือสิ่งของ สำหรับจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่ต้องสวมถุงมือในขณะปฏิบัติงาน และเปลี่ยนหลอดเป่าทุกครั้ง ให้การปฏิบัติอยู่ในสายตาประชาชน เพื่อความโปร่งใส ป้องกันการถูกร้องเรียน หรือสร้างความเข้าใจผิดในขณะปฏิบัติหน้าที่