xs
xsm
sm
md
lg

“ท่านเปา” ชี้ “รังสิมันต์ โรม”-กมธ.ไม่มีอำนาจเรียก “ประมุขตุลาการ” ชี้แจงได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



แหล่งข่าวผู้พิพากษาเผย “รังสิมันต์ โรม” โฆษก กมธ.การกฎหมาย ไม่มีสิทธิเรียกประมุขศาล หรือตุลาการ มาชี้แจงเรื่องข้อมูลบิดเบือนทางโซเชียลฯ ได้

วันนี้ (1 เม.ย.) กรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน จะทำจดหมายเชิญ ประธานศาลฎีกามาชี้แจงต่อ กมธ.กรณีข่าวลือทางโซเชียลมีเดียว่า ที่ประชุมใหญ่มีการพูดคุยเรื่องการไม่ปล่อยชั่วคราวแกนนำม็อบคณะราษฎร ซึ่งภายหลังทางโฆษกศาลยุติธรรมได้ออกมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงและเป็นการโพสต์ข้อมูลบิดเบือน

ล่าวุด แหล่งข่าวผู้พิพากษาระดับสูงเปิดเผยว่า กมธ.กฎหมาย ไม่มีอำนาจเรียก “ประมุขตุลาการ” หรือผู้พิพากษาหรือตุลาการ ซึ่งพิพากษาอรรถคดีหรือปฎิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาเข้าให้การ ตามรัฐธรรมนูญ ม.129 วรรค 4 แหล่งข่าวผู้พิพากษาระดับสูงกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ ม.129 วรรค 4 ระบุว่า คณะกรรมาธิการตามวรรคหนึ่ง (กมธ.กฎหมาย ก็เป็นหนึ่งใน กมธ.ตามวรรค 1) มีอำนาจเรียกเอกสารจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความเห็นในกิจการที่กระทำหรือในเรื่องที่พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาอยู่นั้นได้ แต่การเรียกเช่นว่านั้นมิให้ใช้บังคับแก่ “ผู้พิพากษาหรือตุลาการ” ที่ปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในกระบวนวิธีพิจารณาพิพากษาอรรถคดี หรือการบริหารงานบุคคลของแต่ละศาล ดังนั้น กมธ.กฎหมายจึงไม่มีอำนาจเรียกประธานศาลฎีกา ซึ่งเป็นประมุขของฝ่ายตุลาการเข้าให้การใดๆ ด้วยประการทั้งปวง

เมื่อถามว่านายรังสิมันต์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.อ้างว่าเป็นการเรียกสอบถามเกี่ยวกับกระแสข่าวมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาครั้งที่ผ่านมา แหล่งข่าวผู้พิพากษาคนเดิมกล่าวว่า นายรังสิมันต์คงไม่เข้าใจข้อกฎหมาย เพราะการที่ประธานศาลฎีกาเรียกประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกา ไม่ใช่เป็นการประชุมเหมือนหน่วยงานทั่วไป แต่การประชุมใหญ่ของผู้พิพากษาศาลฎีกา เป็นการพิจารณาอรรถคดีตามวิธีพิจารณาความมีบัญญัติไว้ทั้งกฎหมายแพ่งและอาญา

แหล่งข่าวผู้พิพากษากล่าวว่า ในการประชุมใหญ่ศาลฎีกาครั้งที่ผ่านมามีวาระประชุมอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกเป็นการพิจารณาเกี่ยวกับอรรถคดี ส่วนเรื่องที่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาศาลฎีกา ดังนั้น กมธ.กฎหมายจึงไม่มีอำนาจเรียกประธานศาลฎีกา หรือผู้พิพากษาพิจารณาอรรถคดีหรือปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษา เข้าให้การตามที่รัฐธรรมนูญ ม.129 วรรค 4 บัญญัติไว้ ซึ่งเป็นการถ่วงดุลไม่ให้กรรมาธิการใดๆ มีอำนาจเหนือฝ่ายตุลาการซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของอำนาจอธิปไตยของประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น