ศาลนัดตรวจหลักฐาน แกนนำม็อบคณะราษฎร 22 คน ชุมนุมทวงคืนอำนาจ 19-20 ก.ย.ทนายความเผยวันนี้จะยื่นประกันอีกรอบ ส่วน “เพนกวิน” ร่างกายอ่อนเพลีย เจ้าหน้าที่ต้องให้น้ำเกลือถึงห้องขัง ไม่พาไป รพ.ราชทัณฑ์ หวั่นไม่ปลอดภัย
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญาถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีดำ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง นายพริษฐ์ ชิวารัษ์ หรือ เพนกวิน กับพวกรวม 22 คน (รวมพิจารณากับ คดีดำอ.539 /2564 รุ้ง ปนัสยา กับพวกอีก 18 คน) เป็นจำเลยฐานดูหมิ่นสถาบันร่วมกันชุมนุมฯ มาตรา 112, 116 ฯลฯ
กรณีทำการชุมนุมทวงคืนอำนาจและปักหมุดราษฎร ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและสนามหลวงเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563
โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวแกนนำม็อบคณะราษฎรมาจากเรือนจำ โดยขณะที่รถเรือนจำควบคุมตัวจำเลยในคดีมาที่ศาล เจ้าหน้าที่ได้มีการถอยรถเรือนจำเข้าไปใต้ถุนศาลอาญา เพื่อนำตัวจำเลยลงจากรถ พร้อมกันพื้นที่ให้สื่อมวลชนรอถ่ายภาพบริเวณฝั่งตรงข้าม ก่อนจะปิดประตูรั้ว และนำรถตู้มาปิดทางอีกขั้นหนึ่ง ทำให้สื่อมวลชนไม่สามารถเห็นตัวจำเลยทั้งหมดได้
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้เตรียมพยานหลักฐานไว้ส่วนหนึ่งเพื่อแสดงต่อศาล เช่น พยานบุคคลซึ่งเป็นจำเลยทั้ง 22 คน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและนักวิชาการ คดีนี้โจทก์มีพยานหลักฐานกว่า 200 ชิ้น และได้ขอคัดถ่ายสำเนาไว้แล้วแต่ยังไม่ได้รับ กรณีนี้อาจจะมีผลต่อการหาพยานหลักฐานมาแก้ต่างในการต่อสู้คดีได้
และในวันนี้จะยื่นขอประกันตัวจำเลยทั้งหมดอีกครั้ง เนื่องจากเชื่อว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้รุนแรง ทั้งนี้ หากศาลเห็นว่าควรข้อกำหนดเงื่อนไขอย่างไรก็ให้กำหนดมา และการที่จำเลยไม่ได้รับการประกันตัวจะเป็นอุปสรรคในการต่อสู้คดี
ส่วนอาการ นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ที่ประกาศอดอาหาร ขณะนี้อาการน่าเป็นห่วง ทีมแพทย์ได้มีการให้น้ำเกลือภายในห้องขังซึ่งจำเลยยินยอม เพราะไม่ต้องการไป รพ.ราชทัณฑ์ เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย และจำเลยยังยืนยันว่าจะอดอาหารต่อไป ซึ่งอาการของเพนกวินอาจมีผลกระทบต่อการพิจารณาคดี มีผลต่อสติสัมปชัญญะในการหาข้อมูลต่อสู้ของจำเลยด้วย
ส่วน นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบร์ท และ ผู้ชุมนุมที่ถูกจับระหว่างตำรวจขอคืนพื้นที่หมู่บ้านทะลุฟ้า เมื่อวานนี้ ก็คาดว่าจะมีการฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ คาดว่า ไม่มีปัญหา เพราะเป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ขึ้นกับศาลแขวง
สำหรับบรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดา เช้านี้ เจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กมาวางกั้นรั้วและเว้นช่องประตู้เข้า-ออก เพื่อทำการคัดกรองประชาชน ผู้ที่จะเข้ามาติดต่อราชการบริเวณศาลอาญา โดยเตรียมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนประมาณ 50 นาย และตำรวจศาล คอยดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณรอบศาลอย่างเข้มงวด