สำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ แลกเปลี่ยนความรู้นวัตกรรม มุ่งอำนวยความสะดวกระงับข้อพิพาททางแพ่งคดีกลุ่ม E-commerce หรือซื้อขายออนไลน์มากขึ้น
วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุมสำนักงานศาลยุติธรรม อาคารศาลอาญา ชั้น 12 ถนนรัชดาภิเษก นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และ ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมกระบวนการระงับข้อพิพาทของศาล และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อพัฒนาการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะนำมาใช้ในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ทั้งด้านการบริหารจัดการคดี การให้บริการ และการอำนวยความสะดวกในช่องทางของกระบวนการระงับข้อพิพาทต่างๆ แก่ผู้มีอรรถคดีและประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการของศาลยุติธรรม
นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนมีข้อพิพาททางแพ่งที่มีสาเหตุจากการทำธุรกรรมทางพาณิชย์ (E-Commerce) มากขึ้น ประกอบกับได้มีมาตรการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นอุปสรรคในการดำเนินกระบวนการระงับข้อพิพาท
สำนักงานศาลยุติธรรมจึงได้พัฒนากระบวนการระงับข้อพิพาทในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการไกล่เกลี่ยคดีก่อนฟ้อง ซึ่งเป็นช่องทางในการยุติข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี การไกล่เกลี่ยออนไลน์ และการอนุญาโตตุลาการให้ทันสมัยและสอดคล้องต่อสถานการณ์ ทำให้ข้อพิพาทยุติลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว และยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนที่มีข้อพิพาททางแพ่ง
ดังนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมจึงร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมกระบวนการระงับข้อพิพาท พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี การร่วมกันศึกษาวิจัยทิศทางของกฎหมายที่สำคัญในอนาคตเกี่ยวกับการขับเคลื่อนระบบนวัตกรรมแห่งชาติ รวมถึงการส่งเสริมการศึกษาวิจัยการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการภาครัฐ และการพัฒนากระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีอรรถคดีและประชาชน ตลอดจนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กระบวนการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทของศาลและการอนุญาโตตุลาการ ให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) และประชาชนทั่วไปได้รับทราบ