MGR Online - น.2 ชี้“กิจกรรมเดินทะลุฟ้า”เข้าข่ายผิดหลายข้อหา จัดกำลัง คฝ.ดูแลอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-ทำเนียบฯ นำอุปกรณ์พิเศษระดับสากลมาใช้ ย้ำไปพักค้างคืนที่เหมาะกว่านี้ ไม่เชื่อใจชุมนุมโดยสงบ ตัวอย่างมีให้เห็น บช.น.เตือนหลีกเลี่ยง 7 เส้นทาง แนะนำใช้ 11 เส้นทาง
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.(จต.) ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกรณีรวมตัวทำ “กิจกรรมเดินทะลุฟ้า”ครั้งที่ 2 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) เวลา 14.00 น.ว่า ตำรวจเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้ชุมนุมโดยสงบตามที่กล่าวอ้าง ขณะนี้กรุงเทพฯเป็นพื้นที่ประกาศห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค หากมีความเสี่ยงแพร่ระบาดเชื้อโรคจะมีความผิดตามกฎหมาย
บช.น.ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ไว้ดูแลการชุมนุมตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-ทำเนียบฯ โดยจะประเมินสถานการณ์รุนแรงตลอดเวลา เพื่อปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีการใช้อุปกรณ์พิเศษที่ใช้ในการควบคุมฝูงชนระดับสากล หากพบว่ามีการใช้ความรุนแรง หรือละเมิดต่อกฎหมายตำรวจจะเข้าควบคุมตัวทันที และหากเกิดอันตรายต่อสถานที่ราชการ จะใช้เครื่องมือเครื่องกีดขวางรักษาความปลอดภัย ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอาจพักค้างคืนนั้น ทำเนียบฯเป็นสถานที่ราชการสำคัญ ไม่ใช่สถานที่พักค้างคืนควรไปที่อื่นที่เหมาะสมกว่านี้
“จากการข่าวทราบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกิจกรรมเดินทะลุฟ้า มีกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงในการชุมนุมที่ผ่านมาหลายครั้ง อาทิ กลุ่มแดงก้าวหน้า 63, กลุ่มอาชีวะ และกลุ่มการ์ดวีโว่อาจมีการใช้วัตถุ หรือวัตถุอาวุธ อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยชุดสืบสวนได้จับตากลุ่มดังกล่าวเป็นพิเศษ หากมีการกระทำผิดกฎหมาย จะทำการบันทึกภาพไว้เป็นพยานหลักฐาน ตำรวจพร้อมเข้าระงับเหตุและควบคุมตัวทันที เพื่อไม่ให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนและอันตราย” น.2 กล่าว
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.(จร.) ในฐานะรองโฆษก บช.น.กล่าวว่า เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนราชดำเนินกลาง, ถนนพิษณุโลก, ถนนราชดำเนินนอก, ถนนนครสวรรค์, ถนนดินสอ, ถนนตะนาว, สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตั้งแต่เวลา 12.00 น.และเส้นทางที่แนะนำไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ 1. เส้นทางจากฝั่งพระนคร-ฝั่งธนบุรี ได้แก่ ด่วนยมราช-ถนนสวรรคโลก-ถนนราชวิถี-สะพานกรุงธน (ซังฮี้), ถนนพระราม 6-ถนนพระราม 1-ถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม-ถนนเยาวราช-ถนนจักรวรรดิ-สะพานพระปกเกล้า, ถนนพระราม 4-ถนนเยาวราช-ถนนจักรวรรดิ-สะพานพระปกเกล้า, ถนนพระราม 4-ถนนสาทรใต้-สะพานตากสิน
2. เส้นทางจากฝั่งธนบุรี-ฝั่งพระนคร ได้แก่ คู่ขนานลอยฟ้า-ทางด่วนศรีรัช-แจ้งวัฒนะ หรือ จตุจักร, คู่ขนานลอยฟ้า-ทางลงสิรินธร-สะพานกรุงธน (ซังฮี้)-ถนนราชวิถี-ถนนพระราม 6, สะพานพระราม 8-ถนนสามเสน-แยกซังฮี้-ถนนสุโขทัย, สะพานพระปกเกล้า-ถนนจักรเพชร-ถนนมหาไชย-แยกสามยอด-ถนนเจริญกรุง-ถนนพระราม 4, สะพานพระปกเกล้า-ถนนจักรเพชร-ถนนมหาไชย-แยกสามยอด-ถนนเจริญกรุง-แยกเอสเอบี-ถนนวรจักร-ถนนบำรุงเมือง-ถนนพระราม 1, สะพานพุทธยอดฟ้า-ถนนจักรเพชร-ถนนอัษฎางค์-ถนนบำรุงเมือง-ถนนพระราม 1, สะพานตากสิน-ถนนสาทรเหนือ-ถนนพระราม 4
ทั้งนี้ บช.น.ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจร คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทาเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) โทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางแอปพลิเคชัน M-Help Me และทางเว็บไซต์ WWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH