สามีเจ๊ไข่เจ้าของร้านซีฟูดชื่อดังย่านประชาชื่น ยิงตัวเองดับปริศนา

สามีเจ้าของร้านอาหารเจ๊ไข่ ซีฟู้ด ย่านประชาชื่น ใช้ปืนลูกโม่จ่อขมับยิงตัวเองเสียชีวิตภายในห้องพัก ทางครอบครัวงง ไม่รู้แรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 4 มี.ค. ร.ต.อ.จิระวัฒน์ จันทะโรจน์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุมีผู้ยิงตัวตายภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งถนนประชาชื่น ริมคลองประปา จึงรุดตรวจสอบ พร้อมประสานมูลนิธิร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจ (พฐ.) เข้าร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 4 ของอาคาร เลขที่ 1300/3​ ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง​ เขตบางซื่อ กทม.เป็นอาคารพาณิชย์ 6 คูหา เป็นร้านอาหารซีฟูด ชื่อร้านเจ๊ไข่ ซีฟู้ด พบร่างนายสุรศักดิ์ เอี่ยมผ่องใส อายุ 65 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นห้อง ที่บริเวณขมับศีรษะด้านขวาพบมีรูกระสุน 1 นัด ใกล้กันพบปืนพกแบบลูกโม่ยังไม่ทราบขนาดตกอยู่บนพื้นห้อง ห่างจากบริเวณเท้าของศพประมาณ 1 เมตร ซึ่งนายสุรศักดิ์เป็นสามีของนางนิภาพร ซื่อสัตย์ หรือเจ๊ไข่

จากการสอบถามคนงานของร้านอาหารดังกล่าวทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขึ้นไปที่ชั้น 4 ในช่วงเวลา 3 ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาปกติที่ผู้ตายจะขึ้นไปในเวลานี้ของทุกวันเพื่อดื่มกินก่อนเข้านอน ก่อนที่ร้านปิดเวลาประมาณ 4 ทุ่ม เจ๊ไข่จะปิดร้านแล้วขึ้นตามไปและร่วมดื่มกิน ก่อนที่เจ๊ไข่จะปลีกตัวเข้าห้องนอน พอสักพักได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เมื่อวิ่งออกมาดูก็พบว่านายสุรศักดิ์ได้ยิงตัวเอง จึงโทร.เรียกเจ้าหน้าที่กู้ชีพและอาสากู้ภัยเข้ามาเพื่อช่วยชีวิตแต่ไม่เป็นผล ซึ่งขณะเกิดเหตุมีคนอยู่ในอาคารทั้งหมดเพียงแค่ 4 คน คือ นายสุรศักดิ์ เจ๊ไข่ และคนงานอีก 2 คน

ส่วนสาเหตุจนถึงขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่สามารถระบุได้ว่าการก่อเหตุในครั้งนี้มาจากสาเหตุใด เพราะยอดขายของทางร้านก็ยังปกติดี ไม่น่าจะใช่ความเครียดจากเรื่องธุรกิจ มีเพียงข้อสงสัยที่ทางครอบครัวเห็นว่าผิดปกติ คือ ในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาผู้ตายค่อยไม่ยิ้ม ปกติแล้วผู้ตายจะเป็นคนยิ้มแย้มกับทุกๆ คน แต่ก็ไม่ได้มีใครคิดว่าผู้ตายจะมาก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

สำหรับร้านเจ๊ไข่ เปิดมาจนถึงปัจจุบันกว่า 30 ปี โดยเริ่มจากธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็ก มีเพียง 1 คูหา ปัจจุบันมีขนาดอาคารกว่า 6 คูหา มูลค่าทรัพย์สินกว่า 40 ล้านบาท มีพนักงานทั้งหมดรวมกว่า 40 คน และทำยอดขายได้วันละกว่า 4-5 แสนบาทต่อวัน

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งนิติเวช รพ.ตำรวจ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะจากการสอบถามเบื้องต้นยังไม่พบสาเหตุที่คาดว่าผู้ตายจะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น