xs
xsm
sm
md
lg

ร้อง "ดีเอสไอ" ชาวต่างชาติ ถูกหลอกซื้อบ้านโครงการหรู จ.เพชรบุรี สูญ 3,000 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - "ศรีสุวรรณ" พา ตัวแทนชาวรัสเซีย-อังกฤษ ยื่นเรื่อง ดีเอสไอ เอาผิดกรมที่ดินและนายทุนข้ามชาติ ออกเอกสารสิทธิ์ในเขตป่าสงวน จ.เพชรบุรี หลอกขายบ้านจัดสรร เสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท

วันนี้ (3 ก.พ.) เวลา 10.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พา ผู้เสียหายสัญชาติรัสเซียและอังกฤษ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายอำเภอบ้านลาด และเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารของบริษัทนอมินีต่างชาติ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2551

นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก  ถูกบริษัทต่างชาติที่มาจดทะเบียนในประเทศไทย คาดทำมาแล้ว 2-3 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติถือหุ้นกว่า 98 เปอร์เซ็นต์ มีคนไทยเป็นนอมินีถือหุ้น 1-2 เปอร์เซ็นต์ ทำการหลอกขายบ้านพักพร้อมที่ดินจัดสรร ในโครงการ “Phetchaburi Park Project” ซึ่งประกอบด้วย โรงแรม คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว สวนอาหาร และสวนน้ำ ในพื้นที่กว่า 555 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ต.ไร่โศก อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี

นายศรีสุวรรณ เผยอีกว่า กลุ่มชาวต่างชาติผู้เสียหายมีนับ 100 ราย ความเสียหายรายละ 1-3 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ได้หลงเชื่อบริษัทดังกล่าวที่มีการโฆษณาผ่านเว็บไซต์เกี่ยวกับโครงการสร้างบ้านพัก จึงได้โอนเงินสั่งจองล่วงหน้า ต่อมาพบว่าการก่อสร้างล่าช้าเมื่อทำการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ของที่ดินทั้งหมดในโครงการ ซึ่งมีทั้งหมด 21 แปลง เนื้อที่รวม 555 ไร่ 1 งาน 49 ตรว. ปรากฎว่าอยู่ในรูปของ น.ส.3 และที่ดินเกือบทั้งหมด 99 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางหัก-เขาปุ้ม ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 458 (พ.ศ.2515) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ 2507 เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2515

"เมื่อตรวจสอบ น.ส.3 ดังกล่าวนั้นได้ทำการออก โดยกรมที่ดิน ช่วงปี 2533 ภายหลังจากการประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติแล้ว จึงเชื่อแน่ว่าการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ทั้ง 21 แปลงดังกล่าวของกรมที่ดิน น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอาจมีการร่วมมือกันกระทำผิดอย่างเป็นกระบวนการ ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 โดยชัดแจ้ง" 

นายศรีสุวรรณ เผยต่อว่า ที่ดินดังกล่าว สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี ได้ทำการลงไปรังวัดสำรวจตรวจสอบพิกัดของที่ดินแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.63 และรายงานให้อธิบดีกรมป่าไม้ทราบแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.63 ว่าพื้นที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางหัก-เขาปุ้มจริง และอธิบดีกรมป่าไม้ได้มอบหมายให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี ดำเนินการตรวจสอบสารบบที่ดินเพื่อเพิกถอน น.ส.3 ทั้งหมดแล้ว พร้อมรื้อถอนอาคารสำนักงานโครงการดังกล่าว แต่ทว่าจนบัดนี้กระบวนการเพิกถอนที่ดินและเอาผิดบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด และคนต่างชาติได้นำเงินของผู้เสียหายออกนอกประเทศไปหมดแล้ว เหลือเพียงคนไทยที่เป็นนอมินีอยู่เท่านั้น

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอจะตรวจสอบหลักฐานก่อนว่าเคยมีการร้องเรียนกรณีบุกรุกป่าแห่งนี้มาก่อนหรือไม่ เพราะคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนจะเข้าข่ายคดีพิเศษ พร้อมประสานกรมป่าไม้และกรมที่ดินตรวจสอบผู้ออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 โดยมิชอบ เพื่อเอาผิดขบวนการหลอกลวงชาวต่างชาติตามกฎหมายต่อไป

ส่วนทาง นายมาคัส เฮิร์ส ชาวอังกฤษ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนหลงเชื่อบริษัทดังกล่าวเพราะมีความน่าเชื่อถือ มีการก่อสร้างโครงการลักษณะนี้หลายพื้นที่ ทั้ง จ.ภูเก็ต , จ.เพชรบุรี หรือ พัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งตนได้จองคอนโดมิเนียม ในโครงการ จ.เพชรบุรี ราคา 3 ล้านบาท เมื่อปี 2558 แต่สุดท้ายกลับมาถูกหลอก










กำลังโหลดความคิดเห็น