รปภ.วัย 74 ปี ออกเวรขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน ไปเกี่ยวกับสายสัญญาณโทรศัพท์ที่ห้อยลงมา เสียหลักล้ม รถยนต์กระบะทับซ้ำเสียชีวิตคาที่
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ร.ต.ท. ภัณณิพงศ์ จิตร์ตารานนท์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คูคต รับแจ้งมีอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้มและถูกรถยนต์กระบะทับซ้ำทำให้มีผู้เสียชีวิต ที่ถนนลำลูกกาคลอง 4 ฝั่งตรงข้ามหน้าห้างบิ๊กซี ขาเข้า กทม. ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียเสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนคว่ำหน้ากับพื้นถนน แต่งกายใส่ชุดซาฟารีสีดำ ทั้งกางเกงและเสื้อ มีบาดแผลที่บริเวณศีรษะจากการถูกล้อทับ ทราบชื่อคือนายหอม เจียมตน อายุ 74 ปี ที่อยู่ตามบัตร 23/160 หมู่ 7 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ใกล้กันพบจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 สีดำ-แดงทะเบียน 6 กจ 2232 กทม.ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย มีรอยถลอกที่กระจกรถข้างขวา และรอยถลอกที่ตัวรถด้านขวาหน้า ห่างออกไปประมาณ 100 เมตรพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน ผอ 9261 ชลบุรี ที่จอดชิดขอบทาง โดยมีนายวัฒนะ ประมวลสุข อายุ 50 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 66/2 หมู่ 7 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ซึ่งเป็นคนขับขี่ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความตกใจ
นายวัฒนะ ประมวลสุข อายุ 50 ปี เปิดเผยว่า ตนเองได้ขับรถมาจาก จ.ชลบุรี กำลังจะไปขนต้นไม้ที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยขับอยู่เลนกลาง ช่วงจังหวะนั้นเองเห็นว่าจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้เสียหลักและล้มมาทางซ้ายตรงกับล้อรถหน้าขวาพอดีจึงทำให้ทับคุณลุงผู้ขับขี่จักรยานยนต์จนเสียชีวิต ตนจึงนำรถเข้าจอดชิดข้างทางด้านซ้ายเพื่อลงมาดูพบว่ามีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จึงรีบโทร.แจ้งตำรวจและกู้ภัยทราบ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า จักรยานยนต์คันที่เสียหลักล้มคาดว่าไปเกี่ยวกับสายนำสัญญาณโทรศัพท์ที่ห้อยลงมาและยังมีร่องรอยขาดติดไปกับถนนทำให้จักรยานยนต์เสียหลักและล้มลงจนถูกรถกระบะทับจนเสียชีวิต
จากการสอบถามลูกสาวผู้เสียชีวิตบอกว่า ตนทำงานอยู่ที่ห้างบิ๊กซี สาขาคลอง 4 ลำลูกกา และพ่อทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่โรงเรียนวัดคลองชัน เพิ่งออกเวรมากำลังจะกลับบ้าน แต่ตนได้เวลาทำงานที่ห้างแล้วยังไม่เห็นพ่อกลับมาจึงนั่งวินจักรยานยนต์รับจ้างมาทำงาน เมื่อมาถึงก็เห็นอุบัติเหตุและคุ้นการแต่งกายจึงโทร.หาพ่อ แต่กลับมีอาสาสมัครมูลนิธิฯ รับสายแทนแล้วแจ้งเหตุให้ทราบเลยข้ามถนนมาดูก็พบว่าเป็นพ่อของตนเองจริงๆ
ทางด้าน ร.ต.ท.ภัณณิพงศ์ จิตร์ตารานนท์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คูคต และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุและร่วมชันสูตรพลิกศพพร้อมกับแพทย์เวร จากนั้นจึงได้บันทึกภาพในจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำรถคู่กรณีทั้งสองคันพร้อมผู้ขับขี่รถยนต์กระบะไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพักคูคต และติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสายนำสัญญาณให้เข้ามาตรวจสอบว่าเป็นสายของใครเพื่อหาข้อสรุปคดี ส่วนผู้เสียชีวิตมอบให้ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะมอบให้ทางญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป