xs
xsm
sm
md
lg

ฝากขัง-ค้านประกัน 3 นร.อาชีวะปาระเบิด ตร.คุมม็อบ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจปทุมวัน หิ้ว 3 นักเรียนอาชีวะปาระเบิด ใกล้จามจุรีสแควร์ ฝากขัง-ค้านประกัน ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมเเจ้งข้อหาหนักพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน

วันนี้ (29 ม.ค.) พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้คุมตัวนายพรชัย ประกาพวง อายุ 23 ปี, นายณัฐสุต ศิริอัฐ อายุ 20 ปี และนายวีรยุทธ สัมฤทธิ์เรืองศรี อายุ 30 ปี การ์ดอาชีวะกลุ่มคณะราษฎร มายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วันต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ตั้งเเต่วันที่ 29 ม.ค.-9 ก.พ. 2564 จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ ขณะที่ ส.ต.ท.ชาคริต พินิจ และ ส.ต.ต.อรรถพล จั่นชมนาค ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนบริเวณแยกสามย่าน ต่อมามีการประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมและมีการกระชับพื้นที่เพื่อให้เลิกชุมนุม ขณะที่ ส.ต.ท.ชาคริต และ ส.ต.อ.อรรถพลได้ทำการกระชับพื้นที่ไปตามถนนพระราม 4 มุ่งหน้าแยกอังรีดูนังต์ และเมื่อเดินมาถึงบริเวณหน้าทางขึ้นอาคารจามจุรีสแควร์ฝังติดริมฟุตปาธ ถนนพระราม 4 ขาออกนอกเมือง (มุ่งหน้าแยกคลองเตย) ได้มีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นจำนวน 1 ครั้ง เป็นเหตุให้ ส.ต.ท.ชาคริตได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเป็นแผลบริเวณมือข้างซ้าย และศีรษะด้านซ้าย, ส.ต.อ.อรรถพลได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเป็นแผลบริเวณมือข้างซ้าย หัวเข่าด้านขวา และสะเก็ดระเบิดยังไปโดนนายภุชงค์ สุขเสนา ผู้จัดการอาคารจามจุรีสแควร์ ที่ยืนอยู่บริเวณดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเป็นแผลบริเวณฝ่ามือขวา และใต้ท้องแขนขวา และนายธนกร วงศปัญญา ผู้สื่อข่าว The Standard ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาซ้ายเป็นแผล ผู้บาดเจ็บรักษาอาการที่โรงพยาบาลตำรวจ และแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด

จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่า คนร้ายก่อเหตุโดยใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขณะเกิดเหตุขับขี่อยู่บนสะพานไทย-ญี่ปุ่น (มุ่งหน้าแยกคลองเตย) และคนร้ายได้ขว้างวัตถุระเบิดจากบนสะพาน และขับขี่หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุมุ่งหน้าถนนสาทร มีผู้กระทำความผิดจำนวน 3 คน โดยแบ่งหน้าที่กันกระทำความผิด ดังนี้ 1. นายพรชัย ประกาพวง เป็นผู้ซ้อนท้ายจักรยานยนต์ และไปผู้ขว้างวัตถุระบิดในวันเกิดเหตุ 2. นายวีรยุทธ สัมฤทธิ์เรืองศรี เป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์ โดยมีนายพรชัยซ้อนท้ายก่อนเกิดเหตุ (ก่อนขึ้นสะพานไทย-ญี่ปุ่น) ขณะเกิดเหตุและหลบหนี ออกจากที่เกิดเหตุ 3. นายณัฐสุต ศิริอัฐ เป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์โดยมีนายพรชัย ซ้อนท้ายในช่วงก่อนเกิดเหตุ (ก่อนที่นายพรชัย จะเปลี่ยนไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันของนายวีรยุทธเป็นผู้ขับขี่)

จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมหลักฐานขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ ซอยเรวดี 24 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี จึงได้นำหมายจับศาลไปแสดงและจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร, ร่วมกันทำซื้อมีใช้สั่งนำเข้าค้าหรือจำหน่ายด้วยประการใดๆ ซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 221, 371 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 38, 55 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 83

เหตุเกิดที่บริเวณหน้าห้างจามจุรีสแควร์ ถนนพระราม 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 16 ม.ค. 2564

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังระบุว่าได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาจะครบกำหนดควบคุม 48 ชั่วโมงในวันที่ 31 ม.ค. 2564 เวลา 10.00 น.เศษ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น โดยจะต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 5 ปาก รอผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวน หากผู้ต้องหาขอประกันตัวพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
กำลังโหลดความคิดเห็น