MGR Online - ดีเอสไอบุกค้นโรงหนัง-ห้องพัก จับผู้ต้องหาชาวจีนลักลอบจำหน่ายสินค้าประเภทเเว่นตาปลอมเครื่องหมายการค้า กว่า 3 ล้านชิ้น มูลค่า 300 ล้านบาท
วันนี้ (19 ม.ค.) เวลา 10.45 น. พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีดีเอสไอ, พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน ผอ.กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา, พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันนำหมายศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายแหล่งเก็บสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า 2 จุด ได้แก่ 1. โรงหนังดาวคะนอง หรือ BMC Dao Khanong Cinema แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพฯ และ 2. ห้องเลขที่ 1418, 1420, 1611, 1612 ชั้น 6 ดาวคะนองคอนโดมิเนียม แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
พ.ต.ท.กรวัชร์เผยว่า สืบเนื่องจากกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา สืบสวนทราบว่ามีแหล่งเก็บสินค้าประเภทแว่นตาแบรนด์เนมปลอมเครื่องหมายการค้าขนาดใหญ่ย่านดาวคะนอง ซึ่งมีสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าเป็นจำนวนมาก เช่น ยี่ห้อเรย์แบน (Ray ban) กุชชี่ (GUCCI) โอ๊คเลย์ (Oakley) ชาแนล (CHANEL) คริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior), โดลเช แอนด์ กาบบานา (Dolce & Gabbana หรือ D&G) คาเทียร์ (Cartier) มงต์บลองค์ (Montblanc) อาร์มานี (Armani) เฟนดิ (Fendi) เจนเทิล มอนสเตอร์ (Gentle Monster) ซีลีน (Celine) เวอร์ซาเช่ (Versace) เป็นต้น เป็นเหตุให้เจ้าของเครื่องหมายการค้าได้รับความเสียหาย
“กองคดีทรัพย์สินทางปัญญาจึงได้สืบสวนเฝ้าติดตามจนพบหลักฐานในการกระทำความผิด โดยผลการตรวจค้นพบ นายชาง ลี่ ลี ชาวจีน อายุ 42 ปี ผู้ต้องหา พร้อมด้วยแว่นตาปลอมเครื่องหมายการค้า และแว่นตาที่ลักลอบนำเข้าในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรอีกเป็นจำนวนมาก รวมแว่นตาของกลางทั้งหมดประมาณ 3 ล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวจีนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”
พ.ต.ท.กรวัชร์เผยอีกว่า การตรวจค้นครั้งนี้พบแว่นตาที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการทำงานของระบบสายตาและสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง ตลอดจนส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน อันเข้าข่ายการกระทำผิดอาญาที่เป็นคดีพิเศษที่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ทั้งนี้ กองคดีทรัพย์สินทางปัญญามีนโยบายในการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเขตพื้นที่สีแดงและเขตพื้นที่ที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวดต่อไป