ตร.วิสามัญหนุ่มคลั่งฆ่าแม่-เผาบ้าน หลังพ้นคุกแค่วันเดียว

MGR Online - เกิดเหตุชายคลุ้มคลั่งฆ่าแม่ตัวเอง-จุดไฟเผาบ้าน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ ตรวจสอบประวัติเพิ่งออกจากเรือนจำได้เพียง 1 วัน

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 19 มกราคม 2563 พ.ต.ท.รังสรรค์ ตุ้ยโชติ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเสาธง รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่งเผาบ้านตัวเอง และทำร้ายผู้อื่นในซอยบางพรม 54 ถนนบางพรม แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 , พ.ต.อ.วิทยา โมทายนต์ ผกก.สน.บางเสาธง ฝ่ายสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 18/4 เป็นบ้านกึ่งไม้กึ่งปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ในที่ดินท้ายซอย กลางถนนบางพรมพบศพนายนนทชัย กรานเคารพ หรือ โอ๊ต อายุ 35 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญเสียชีวิต สภาพศพนอนตะแคงทับอาวุธมีดจมกองเลือด โดยผู้เสียชีวิตถูกกระสุนปืนเข้าที่กลางศีรษะ 1 นัด ไหปลาร้าขวา 1 นัด ขาขวา 3 นัด ใกล้มือมีรูปแม่กับรูปครอบครัวใส่กรอบ 2 ชิ้น ส่วนที่บ้านพบศพนางอี้ด แม่ผู้ตาย อายุ 64 ปี สภาพศพนอนหงายมีแผลเหวอะหวะที่ใบหน้าไม่เหลือเค้าลางเดิม ลิ้นถูกตัดขาด กรามถูกเลาะ นิ้วขาด 2 นิ้ว ตามร่างกายถูกเฉือนแล้วยัดพระเครื่องไว้ภายใน พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำควบคุมเพลิงประมาณ 30 นาที จึงสงบ

จากการสอบถามญาตินายนนทชัย ผู้ตายกล่าวว่า นายนนทชัย มีอาการคลุ้มคลั่ง และมักอาละวาดมาเป็นปี จนเป็นที่เอือมระอาของคนในละแวกที่เกิดเหตุ ตอนแรกทำร้ายแต่แม่ตัวเอง แต่ระยะหลังทำร้ายคนอื่นด้วย ที่ผ่านมาได้แจ้งเรื่องไปหลายครั้ง แต่ตำรวจจับไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ขณะที่พี่ชายนายนนทชัย กล่าวว่า น้องชายตนเองเคยประสบอุบัติเหตุ เมื่อปี 2563 ทำให้กลายเป็นคนสองบุคคลิก ยืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติด แต่ที่ลงมือก่อเหตุนั้น คาดว่าเกิดจากความเครียดและควบคุมตัวเองไม่อยู่

ต่อมาเวลา 11.30 น.พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.,พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมชั่วโมง ก่อนที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีคนคลุ้มคลั่งเผาบ้าน และทำร้ายผู้อื่น ต่อมา ร.ต.อ.ชูชาติ ลักษิตานนท์ รอง สว.จราจร สน.บางเสาธง รหัสหมวก 603 มาตรวจสอบก็พบชายดังกล่าว วิ่งมุดช่องหลังบ้านออกมาที่ป่ากล้วยข้างๆ กัน และปรี่เข้าใส่ เจ้าหน้าที่จึงยิงปืนตักเตือนไปหลายนัด และสั่งให้วางมีด ทั้งนี้ ขณะเจ้าหน้าที่กำลังจะเข้าไปเตะสกัดมีดออก คนร้ายก็จับมีดและพุ่งเข้าใส่ จึงจำเป็นต้องวิสามัญดังกล่าว ส่วนที่หน้าบ้านพบศพหญิงสูงวัย ซึ่งทราบว่าเป็นมารดาของผู้ก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายนนทชัย เคยก่อคดีชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ เมื่อปี 2548 ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน เมื่อพ้นโทษก็มาประกอบอาชีพรับจ้าง แล้วประสบอุบัติเหตุเมื่อปี 2563 ก่อนจะไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในบ้านยังไม่พบยาเสพติด ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้น ยังต้องรวบรวมหลักฐานว่า มีประวัติเสพยาเสพติดหรือไม่ สำหรับเรื่องที่ญาติผู้ตายบอกว่า เคยแจ้งเรื่องให้ตำรวจมาคุมตัวไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการให้นั้น ก็จะตรวจสอบอีกครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่มอบหมายให้มูลนิธินำศพผู้ตายทั้งสอง ส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ชันสูตร พร้อมหาสารเสพติดในตัวนายนนทชัย ก่อนรวบรวมรายละเอียดลงสำนวนแล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย