ตร.เชิญตัวพระภิกษุสองรูป พร้อมชาวบ้านจากบ้านกกกอกเข้าเครื่องจับเท็จ หลังให้การเจ้าหน้าที่ไม่ตรงกัน ช่วงเวลาตามน้องชมพู่บริเวณทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟ
วันนี้ (18 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจนำพระภิกษุเข้าเครื่องจับเท็จที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หลังจากชาวบ้านให้การไม่ตรงและคำให้การขัดแย้ง กรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ หลังพบว่าชาวบ้านและบุคคลสำคัญในคดีนี้ให้การไม่ตรงกัน
ความคืบหน้ากรณีของคดีฆาตกรรมน้องชมพู่ ซึ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายและปิดคดีในเร็วนี้ได้หรือไม่ แต่ล่าสุดเหมือนจะต้องยึดเวลาออกไปอีก เพราะมีรายงานว่า ตร.เตรียมนำชาวบ้านบ้านกกกอกจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จ.ปทุมธานี เพื่อเข้าเครื่องจับเท็จ โดยก่อนหน้านี้แม่น้องชมพู่และครอบครัวก็เข้าเครื่องจับเท็จมาแล้ว รวมทั้งลุงพล และป้าแต๋นก็มาเข้าเช่นกัน
โดยวันนี้เป็นพยานแวดล้อมสำคัญเป็นกลุ่มที่ชาวบ้านอยู่ในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ และรู้เห็นพฤติกรรมบางอย่าง แต่ด้วยจุดที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด แม้ที่ผ่านมา ตร.เคยนำชาวบ้านที่ออกตามหาน้องชมพู่มาจำลองเหตุการณ์มาแล้ว แต่การเข้าเครื่องจับเท็จนี้เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งประกอบสำนวนคดี เพราะมีบุคคลบางคนซึ่งเป็นคนสำคัญคดีนี้ให้การไม่ตรงกัน เช่น ช่วงเวลานี้เจอชาวบ้านคนนี้ แต่พอไปถามชาวบ้านคนที่อ้างว่าเจอกลับตอบว่าไม่ใช่ ช่วงเวลาก็ไม่ตรงกัน
โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญช่วงเวลาที่ตามหาน้องชมพู่ที่ทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟ ที่วันเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านต่างช่วยกันตามหา แต่ปรากฏบุคคลปริศนาคนหนึ่งกลับวิ่งสวนทางทางลงมาจากภูเหล็กไฟ แตกต่างจากชาวบ้าน บุคคลนี้อ้างว่าเหตุการณ์นี้ได้เจอกับชาวบ้านคนหนึ่งเป็นพยานให้ได้ว่าเขาไม่ได้วิ่งลงมา แต่ ตร.ไปสอบถามพยานคนนี้กลับบอกว่าไม่ได้เจอบุคคลปริศนาคนนี้เลย แต่คนที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่าเห็น นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ช่วงเวลาเกิดเหตุน้องชมพู่หายตัวไป บุคคลคนนี้ไปทำอะไรที่ไหน แม้คำกล่าวอ้างที่เคยให้การอ้างว่าไปพบกับชาวบ้านใครบ้าง แต่พอ ตร.สอบถามและหาข้อมูลกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่บุคคลปริศนานี้ให้ข้อมูล โดยมักจะอ้างว่าชาวบ้านให้ข้อมูลผิด จำผิด จนเคยเกิดข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านกับบุคคลนี้มาแล้ว
เพื่อความละเอียดรอบคอบและครบทุกมุมทำให้ ตร.ต้องนำพยานเหล่านี้มาเข้าเครื่องจับเท็จเพื่อเป็นหลักฐานส่วนหนึ่ง ทั้งนี้ ชาวบ้านที่จะเข้าเครื่องจับเท็จก็ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือกลัวเพราะยืนยันในสิ่งที่พบเห็นมาตลอด และยังมีรายงานว่าสิ่งชาวบ้านเห็นนั้นไม่ได้มีเพียงแค่คำบอกเล่า แต่มีคลิปวิดีโอสำคัญบางอย่างให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วซึ่งขั้นตอนนี้คาดว่าจะทำให้การสรุปสำนวนการพิจารณาออกหมายจับคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่อาจจะต้องยึดระยะเวลาออกไปเล็กน้อย จากเดิมมีรายงานว่าภายในเดือนมกราคมนี้ แต่อาจจะต้องเลื่อนออกไปช่วงก็เป็นได้