MGR Online - รักษาการ ผบก.จันทบุรี มีคำสั่งให้ “รอง สวป.-ผบ.หมู่” สภ.เมืองจันทบุรี ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกฝ่ายปกครองบุกรวบขณะตั้งวงจั่วไพ่ ล่าสุดถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
วันนี้ (14 ม.ค.) มีรายงานว่า พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ได้มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรีที่ 14/2564 ให้ ร.ต.อ.อำพัน บุญค้ำ รอง สวป.สภ.เมืองจันทบุรี และ ส.ต.ท.ณัชนน แนวตัน ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จนถูกตั้งกรรมการสอบสวน
ใจความว่า กรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. เวลา 23.00 น ว่าที่ ร.ต.ชยุต พรมเทศ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันจับกุม ร.ต.อ.อำพัน และ ส.ต.ท.ณัชนน กับพวกรวม 7 คน ในความผิดฐานลักลอบเล่นการพนันไพ่สิบสามใบพนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดจันทบุรี ที่ 4222/2553 ลงวันที่ 28 ธ.ค. 2563 เรื่อง ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เป็นการชั่วคราวฝ้าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 7) ข้อ 3 การปราบปรามและการลงโทษผู้กระทำผิดอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค เหตุเกิดที่ร้านขายอาหารตามสั่ง เลขที่ 10/56 ตรอกเมตตา ต.ตลาด อ.เมืองจันทบุรี และมีเหตุให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 ข้อ 3 (1) คือ ถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือต้องหาคดีอาญาในเรื่องเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่ไว้วางใจ และได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนพิจารณาคดีที่เป็นเหตุให้สั่งพักราชการจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 95 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ประกอบกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 ข้อ 8 จึงให้ ร.ต.อ.อำพัน และ ส.ต.ท.ณัชนน ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป
ด้าน พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรักษาราชการแทน ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นไปตามมาตรการทางปกครองซึ่งก่อนหน้านี้ทางรัฐบาล พร้อมทั้ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนโยบายชัดเจนว่าให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดโดยไม่ละเว้น ซึ่งทาง ตร.ก็ได้มีคำสั่งให้เข้มงวดมาตลอด แต่ยังพบว่ามีผู้ฝ่าฝืนท้าทายคำสั่งผู้บังคับบัญชา ท้าทายกฎหมาย ทั้งที่ได้ประชุมกำชับไปแล้ว จึงต้องมีการลงโทษดังกล่าวเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป