“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 5 มกราคม 2564 ตอน ปิดสภาฯ หนีโควิด สัญญาณ 14 วันอันตราย
ปีฉลู พ.ศ. 2564 เปิดฉากอย่างน่าสะพรึง กับการเริ่มต้น ของประเทศไทย สถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เข้าขั้นวิกฤตไปแล้ว ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และแพร่กระจายไปหลายจังหวัดทั่วประเทศ
เมื่อ 4 มกราคม ตัวเลขกระโดดขึ้นน่าตกใจยิ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 745 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 152 ราย ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าวจากการคัดกรองเชิงรุก 577 ราย
ทำให้ ศบค.และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จำต้องต่ออายุการประกาศใช้พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก45 วัน พร้อมกับการยกระดับคุมเข้มพื้นที่รายจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดง
แต่ไม่ใช่ล็อตดาวน์ ตามที่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ใน 5 จังหวัดที่มีตัวเลขการแพร่ระบาด โควิด 19 จำนวนมากและมีความเสี่ยงสูง ได้แก่ สมุทรสาคร-ชลบุรี -ระยอง -จันทบุรี -ตราด
เป็นการใช้มาตรการใกล้ล็อกดาวน์นำร่องไปก่อน ซึ่งต่อไปสถานการณ์คุมไม่อยู่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ยังสูงต่อเนื่อง คงมีการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบตามมาอีก โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่คาดว่าน่าจะมีคนติดเชื้อจำนวนมากแน่
รัฐบาลเลือกไม่ประกาศล็อคดาวน์ เพราะเหตุผลกลัวเศรษฐกิจดำดิ่ง และไม่ต้องรับผิดชอบจ่ายเงินชดเชยแก่ประชาชน แต่แนะนำแกมขู่ให้อยู่บ้านยาว14-15 วัน ถ้าไม่อยากติดโควิด-19
ภายใต้คำสั่งนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ประชาชนร่วมมือในการป้องกันการแพร่ระบาด สภาวะตอนนี้จึงไม่ต่างกับอยู่ดูแลกันเอง ตัวใคร ตัวมัน ใครติดเชื้อหลังจากนี้ อาจจะถูกประณามซ้ำก็เป็นได้ ว่าทำไมไม่อยู่บ้าน หาออกหาเรื่องติดเชื้อทำไม
แต่ประชาชนกลุ่มที่Work Form Home ไม่ได้ อยู่บ้าน ไม่ติดเชื้อ แต่คงจะอดตาย เนื่องจากรัฐบาลไม่มีมาตรการส่งเงินมาเลี้ยงดู
ขณะนี้ ทางด้านฝ่ายนิติบัญญัติ ปิดสภาหนีโควิด-19 ไปแล้ว มีมติเลื่อนการประชุมสภาออกไปสองสัปดาห์ ทำให้เดิมจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฏร 6-8 มกราคม ต้องเลื่อนออกไป ซึ่งมีเสียงคัดค้านไม่เห็นด้วย พรรคก้าวไกล เจ้าเดียว
ความเห็นสมาชิกสภาในเรื่องงดประชุมสภาฯสองสัปดาห์ ข้างฝ่ายสนับสนุน เห็นว่า สถานการณ์ตอนนี้น่าวิตก ไม่รู้ใครเป็นใคร เข้านอกออกในรัฐสภากันแต่ละวัน มีทั้งส.ส. และสว. ตลอดจนผู้ติดตาม-คนขับรถ ที่มี จำนวนมาก
และ ส่วนใหญ่ช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา ก็ลงพื้นที่พบปะประชาชนช่วงปีใหม่ โดยบางจังหวัด ก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง ซึ่งหากไม่มีการระวังตัวเอง แล้วติดเชื้อเข้ามาในรัฐสภา ก็อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่าย
ไม่นับรวมกับกลุ่มอื่นๆที่เข้าไปป้วนเปี้ยนในรัฐสภาเช่น ผู้ติดตาม ส.ส.-สว. จำนวนมาก -สื่อมวลชน -ข้าราชการรัฐสภา ที่ไม่รู้ใครติดเชื้อ แบบมีอาการและไม่มีอาการกันบ้าง ผนวกกับแนวทางรัฐบาลช่วงนี้ สนับสนุน work from home อีกรอบ ฝ่ายนี้เลยหนุนให้ งดประชุมสภา เพื่อลดความเสี่ยง
พร้อมกับการประชุมวิปสามฝ่าย ที่ผ่านมา
ก็เคาะให้งดประชุมสภาฯ โดยอธิบดีกรมควบคุมโรค ที่ไปให้ข้อมูลกับที่ประชุม ให้ข้อมูลว่า ภายใน 2 สัปดาห์นี้น่าจะยังมีปัญหาเรื่องการแพร่เชื้อโควิดอยู่ และให้ความเห็นว่า เมื่อมีการประชุมสภา ก็ทำให้ รัฐสภากลายเป็นชุมชนที่หนาแน่น เสี่ยงต่อการติดเชื้อ แพร่เชื้อ จึงหนุนให้งดประชุมสภาฯ
ขณะที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย คือพรรคก้าวไกล ค้านเพราะเห็นว่าไม่ควรงดประชุม แต่ให้ใช้วิธีการอื่นเช่น จำกัดจำนวนส.ส.ที่จะอยู่ในห้องประชุม ไม่ให้เข้าไปรวมกลุ่มคุยกันอย่างใกล้ชิด และให้นั่งห่างกัน
การงดประชุมสภาฯสองสัปดาห์รอบนี้ แน่นอนว่า ทำให้สภาฯ เสียเวลาทำงานไปสองสัปดาห์ รอบนี้ จะปิดสมัยประชุมสภาสามัญประจำปีครั้งที่สองในวันที่ 28 ก.พ. 2564 เหลืออีก 8 สัปดาห์ แต่มีการงดประชุมสภาฯ สองสัปดาห์ ก็เหลือ 6 สัปดาห์ จะปิดสมัยประชุม
การที่สภาฯหนีโควิด-19 หยุดทำงานไปสองสัปดาห์ ผลกระทบที่ตามมาเห็นแน่ๆชัดๆ เรื่องสำคัญเรื่องแรกคือ การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯและครม. ที่เดิมทีฝ่ายค้านต้องการยื่นและให้มีผลการนัดซักฟอกในวันที่ 22-25 ก.พ.
แต่เมื่อ การประชุมสภาฯ หายไปสองสัปดาห์ การวางจังหวะยื่นซักฟอกของฝ่ายค้าน ก็อาจต้องปรับแผนตามไปด้วย โดยฝ่ายค้านคุยโวแต่หัววัน ว่าศึกซักฟอกรอบนี้มีหมัดเด็ด หมัดตาย จะประหาร นายกฯและรัฐมนตรีหลายคน
ผลกระทบเรื่องต่อมา คือ การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ในวาระ2 และ 3
ตามแผนเดิม จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้เสร็จภายใน 8 มกราคมนี้ จากนั้น จะส่งต่อให้ ที่ประชุมร่วมรัฐสภา โหวตต่อไปในวาระสองและสาม
แต่จนถึงขณะนี้ การทำงานของกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรธน. ก็ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร แนวโน้ม การพิจารณาญัตติขอแก้ไขรธน. ในชั้นกรรมาธิการ อาจล่าช้าออกไปอีก จนทำให้การส่งร่างให้ ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ก็อาจเลื่อนไป ตามการหยุดประชุมสภา สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้
การพิจารณากฎหมายสำคัญๆ ที่ค้างอยู่ในชั้นสภาฯ -วุฒิสภา คงกระทบแน่ เช่น ร่างพรบ.ประชามติ ที่เป็นกฎหมายสำคัญในการทำประชามติเรื่องต่างๆ ของประเทศ เช่นการทำประชามติร่างรธน.ฉบับใหม่ กว่าจะมีผลบังคับใช้ ก็น่าจะเจอโรคเลื่อนด้วย จนอาจมี กระทบเป็นลูกโซ่ทางการเมืองในด้านอื่นๆ ตามมาอีก
การงด -เลื่อนประชุมสภาฯ แต่ละครั้ง มีผลกระทบตามมาหลายระลอก ซึ่งยังไม่แน่ว่า สภาฯจะมีการเลื่อนรอบใหม่อีกหรือไม่ เพราะการระบาดโควิด-19 ยังเพิ่มเริ่มกระจาย สถานการณ์จะดีขึ้นหรือหนักขึ้น ยังไม่มีใครบอกได้ สภาฯก็อาจจะหนีโควิดต่อไป