ปคบ.รวบ “บัญชีม้า” ต้มขายหน้ากากอนามัยโอนเงินแก๊งข้ามชาติ

MGR Online - กก.1 บก.ปคบ. จับ 3 สาวแก๊งม้าเร็ว ร่วมขบวนการผิวสี เปิดเว็บไซต์หลอกขายหน้ากากอนามัย ก่อนเชิดเงินหนีออกนอกประเทศ

วันนี้ (18 พ.ย.) พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. ได้มอบหมาย พ.ต.อ.เชษฐ์พันธ์ กิติเจริญศักดิ์ ผกก.1 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข รอง ผกก.1 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย คือ น.ส.วรินดา วงษ์กันหา อายุ 25 ปี น.ส.วันวิสา ภูนางาม อายุ 28 ปี และ น.ส.วราพร หรือ พลอยภัทร์ชา ดอนชัย อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1751-1753/2563 ลงวันที่ 17 พ.ย. 2563 โดย น.ส.วรินดา จับกุมได้ที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น, น.ส.วันวิสา จับกุมได้ที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และ น.ส.วราพร จับที่ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เผยว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 63 นายอันโตนิโอ ดิ จอยญ่า สัญชาติอิตาลี ผู้เสียหาย มอบอำนาจให้ น.ส.อลิซาเบทธ์ คอนวอนซี่ มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาได้หลอกลวงโฆษณาขายหน้ากากอนามัย ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก และทางเว็บไซต์ https://warindawongkanhaco.com โดยผู้เสียหายหลงเชื่อจึงติดต่อสั่งซื้อหน้ากากอนามัยกับคนร้าย ผ่านทางสื่อโซเชียลดังกล่าว จำนวน 10,000 ชิ้น และ เฟซชิลด์ (FACE SHIELD) จำนวน 1,000 ชิ้น ราคารวม 12,990 ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) คิดเป็นเงินไทย 421,265 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชี น.ส.วรินดา และ น.ส.วันวิสา ต่อมา ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อได้เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เผยอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน พบว่า ผู้เสียหายได้โอนเงินเข้าบัญชี น.ส.วรินดา และ น.ส.วันวิสา รวมเป็นเงินกว่า 500,000 บาท จากนั้นจะมีการโอนต่อเข้าบัญชีเงินฝาก น.ส.วราพร เพื่อโอนเข้าบัญชี นายเซฟโฟ ยานคองการเด้น สัญชาติแคเมอรูน ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว และบัญชี นายเอ็นยองบาเมีย วิลสัน ที่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ ตั้งแต่ ต.ค. 61 ซึ่งเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยื่นคำร้องขอศาลอาญาออกหมายจับไว้ซึ่งจะได้ประสานองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) เพื่อดำเนินการต่อไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 3 ราย ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันโดนทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันและสมคบกันฟอกเงิน” ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป