ผู้ใหญ่บ้านคลองสามวา ปทุมฯ พื้นที่นำร่องเสพพืชกระท่อมไม่ผิดกฎหมาย อยากให้ปลดล็อกทุกหมู่บ้านทั้งประเทศ เชื่อรักษาโรค เบาหวาน โรคเกาต์
วันนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. หลังจากที่กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือแจ้ง 135 หมู่บ้าน/ชุมชนนำร่องเสพกระท่อมไม่ผิดกฎหมาย ตามมาตรา 58/2 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ จำนวน 10 จังหวัด ซึ่งจังหวัดปทุมธานี ม.12 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นหนึ่งหมู่บ้านที่ถูกพิจารณาให้มีการปลูกเพื่อเสพ และเป็นหมู่บ้านนำร่องต้นแบบในการใช้พืชกระท่อม
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับ น.ส.เกษร แสงงิ้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ประธานคณะกรรมการพืชกระท่อมตำบลคลองสาม ได้กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดประชุมครั้งที่ 2/ 2563 เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2563 ให้ความเห็นชอบในหลักการการนำพื้นที่นำร่องที่ทำการเสพพืชกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิด ขณะนี้มีพื้นที่อยู่ในข่ายสามารถดำเนินการได้รวม 135 หมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อสำนักงาน ป.ป.ส.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคประชาชนในพื้นที่จะได้ดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ให้แล้วเสร็จ หมู่ 12 เป็นหมู่บ้านำร่องในการปลูกพืชกระท่อมเอาไว้เสพซึ่งทาง ป.ป.ส.ได้มีการประชุมกันแล้วว่าให้ปลูกได้บ้านละ 3 ต้นเท่านั้น และห้ามจำหน่าย
ซึ่งบ้านที่ปลูกก็ต้องไปขึ้นทะเบียนกับ ป.ป.ส.ก่อน และต้องมีหนังสือได้รับอนุญาตมีไว้และครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และบ้านตนเองก็ปลูกไว้ 3 ต้น เนื่องจากพืชกระท่อมที่ชาวบ้านกินนั้น จะช่วยให้ขยันทำงานและไม่เหนื่อย เพราะชาวบ้านในตำบลคลองสามส่วนใหญ่ทำการเกษตร ก็ต้องพึ่งใบกระท่อม และอีกอย่างหนึ่ง พืชกระท่อมสามารถกินรักษาโรค เบาหวาน โรคเกาต์ และอีกหลายโรค ตามที่คนโบราณได้บอกต่อๆ กันมา โดยส่วนตัวแล้วผู้ใหญ่ไม่เคยกินพืชกระท่อม แต่ก็ยากให้รัฐบาลปลดล็อกทั้งประเทศ จะได้มองไปในทางเดียวกัน เนื่องจากตำบลคลองสาม ทุกหมู่บ้านปลูกพืชกระท่อมเกือบทุกครัวเรือน วันนี้หมู่ 12 ได้รับการปลดล็อก และหมู่อื่นๆ เขาจะคิดอย่างไร ก็ยากให้ ป.ป.ส.ช่วยดูตรงนี้ด้วย ซึ่งลูกบ้านของตนที่ปลูกต้นกระท่อม ก็ได้ไปขึ้นทะเบียนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ครบทุกครัวเรือนแล้ว ซึ่งหมู่อื่นๆ ก็สามารถไปยื่นขอขึ้นทะเบียนโดยขอคำปรึกษา จาก ป.ป.ส. ได้ พืชกระท่อมมีประโยชน์ และมีโทษได้เช่นกัน หากนำไปใช้ไม่ถูกวิธี