MGR Online - ผู้เสียหายกว่า 20 คนรวมตัวขอความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบเฟซบุ๊ก "ชญานันท์ จันทาทอง" เท้าแชร์ หลังชักชวนร่วมลงทุนแต่สุดท้ายเชิดเงินหนี ไม่จ่ายเงินตามกำหนด
วันนี้ (16 พ.ย.) เวลา 14.30 น. ที่ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ตัวแทนผู้เสียหาย 20 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เพื่อช่วยตรวจสอบกรณีของกลุ่มเปียแชร์และกลุ่มแบ่งปันรายได้ ของบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "ชญานันท์ จันทาทอง" หลังชักชวนให้ร่วมลงทุนแต่ไม่ได้รับเงินปันผลตามกำหนด โดยมีผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 250 คน มูลค่าความเสียหาย 83 ล้านบาท
น.ส.เอ (นามสมมุติ) หนึ่งในตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อช่วงปี 60 ตนพบเฟซบุ๊กชื่อดังกล่าวเปิดให้ร่วมลงทุน "กลุ่มเปียแชร์" โดยมี น.ส.ชญานันท์ หรือแป้ง เป็นท้าวแชร์ และต่อมาทราบว่าได้เปิดกลุ่มใหม่เพิ่มอีก 1 กลุ่มตั้งชื่อว่า "กลุ่มแบ่งปันรายได้" ให้ดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาท ต่อ 15 วัน โดยช่วงแรกสมาชิกได้รับเงินปันผลตามปกติ จากนั้น ช่วงปี 62 วงแชร์ทั้งสองกลุ่มเริ่มมีปัญหา ซึ่ง น.ส.ชญานันท์ อ้างว่ามีสมาชิกบางคนในกลุ่มไม่ยอมจ่ายเงินและต้องการได้เงินเร็วขึ้น จนทำให้กลุ่มแชร์ต้องยุบลง น.ส.ชญานันท์ จึงบ่ายเบี่ยงการจ่ายเงินมาตลอด กระทั่งปี 63 น.ส.ชญานันท์ ได้ขาดการติดต่อทั้งทางเฟซบุ๊กและทางโทรศัพท์ ทำให้สมาชิกบางส่วนเดินทางไปตามหาที่บ้านก็ไม่ยอมออกมาไกล่เกลี่ย นอกจากนี้ พบว่าท้าวแชร์ได้มีการซื้อรถยนต์ อาคาร และทรัพย์สินต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมากที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และที่อื่นๆ จึงต้องการให้กระทรวงยุติธรรมมาตรวจสอบและนำทรัพย์สินมาคืนให้ผู้เสียหาย
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า สำหรับตัวเองครั้งแรกลงทุนจำนวนเงิน 20,000 บาท และได้ปันผลทุกเดือนตามที่ตกลงกับ น.ส.ชญานันท์ โดยสามารถถอนเงินได้ทุกครั้ง จากนั้น ท้าวแชร์ก็ชักชวนให้ลงทุนเพิ่ม อีก 5 แสนบาท ซึ่งจะได้เงินปันผล 5 หมื่นบาทต่อเดือน ต่อมา วันที่ 7 พ.ย.63 ครบกำหนดปันผลแต่ไม่ได้รับเงิน จึงโทรศัพท์ไปสอบถาม น.ส.ชญานันท์ อ้างว่ายังเก็บเงินในกลุ่มไม่ครบ กำลังติดตามและพยายามรวบรวมให้ ล่าสุด วันที่ 8 พ.ย.63 ทราบจากคนในกลุ่มสมาชิกเล่นแชร์ว่าไม่ได้รับเงินปันผล คาดว่า น.ส.ชญานันท์ หลบหนี จนสุดท้ายไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย รวมยอดเงินที่ตนลงทุนประมาณ 7.5 ล้านบาท
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องและหลักฐานของผู้เสียหายไว้ตรวจสอบ พร้อมสอบปากคำเพิ่มเติมและจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป