MGR Online - “รมว.ยุติธรรม” หารือราชทัณฑ์ จัดตั้งสำนักงานส่งเสริมอาชีพผู้ต้องขัง พัฒนาทักษะให้มีงานทำเมื่อพ้นโทษ เลี้ยงตัวเองได้ ย้ำต้องผลิตแรงงานคุณภาพให้สังคม
วันนี้ (7 พ.ย.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เปิดเผยว่า ตนได้มีการหารือกับกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลก่อนและหลังการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่พ้นโทษ เพื่อเป็นการคืนคนดีสู่สังคม โดยจะเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ และกรมพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพราะที่ผ่านมานั้น เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษออกจากเรือนจำหรือเยาวชนที่ออกจากสถานพินิจ งานของกรมจะจบที่ประตูนั้นไม่มีการไปยุ่งเกี่ยว ดูแลหรือติดตามต่อ จะให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นแต่ตนเห็นว่าการที่จะปล่อยผู้ต้องขังออกจากเรือนจำเมื่อพ้นโทษนั้น เราควรจะมีการสร้างงานสร้างอาชีพ ให้พวกเขามีงานทำและไม่กลับมาทำความผิดซ้ำอีก ตามนโยบายที่ตนได้วางเอาไว้
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น ทางกรมราชทัณฑ์จึงได้มีการเสนอโครงการสมภพ คนเกิดชีวิตใหม่ จัดตั้งสำนักงานส่งเสริมอาชีพ เพื่อให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษมีงานทำ โดยเริ่มตั้งแต่การเตรียมพร้อมก่อนปล่อยตัว ซึ่งผู้ต้องขังจะได้รับการฝึกอาชีพ และตั้งบิสซิเนส ยูนิต เพื่อแนะแนวอาชีพที่เหมาะสม เตรียมความพร้อมในการสมัครงาน พัฒนาฝีมือแรงงานและฝึกอบรมให้ความรู้ในการเข้าสังคม
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ยังมีการจัดทำข้อมูลของผู้ต้องขังว่ามีความชำนาญในด้านใดและรวบรวมความต้องการของบริษัทต่างๆ ที่ต้องการจ้างงาน เพื่อเราจะได้จัดสรรหางานที่เหมาะสมให้ และอาจจะประสานกับทางกระทรวงแรงงานเพื่อรับไปหางานทำ จากนั้นเมื่อออกไปแล้ว เราจะจัดทำฐานข้อมูลติดตามว่าพวกเขาออกไปแล้วทำงานอะไรบ้าง นอกจากนี้ มีการเสนอแผนการสร้างนิคมอุตสาหกรมราชทัณฑ์ เพื่อเป็นพื้นที่ในการรองรับแรงงานของผู้ต้องขังที่พ้นโทษ โดยในระยะแรกเราจะเน้นไปที่งานด้านเกษตรกรรมและการแปรรูปทางการประมง ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงที่โควิดระบาดทำให้แรงงานต่างด้าวขาดแคลน ดังนั้น ตรงนี้จะเป็นโอกาสที่ผู้ต้องขังจะได้เข้าไปทำงานตรงนี้ได้ จากนั้นอาจจะเป็นการสร้างโรงงานขึ้นมาเองโดยอาจจะลงทุนร่วมกับเอกชน ซึ่งโครงการนี้จะมีความชัดเจนภายในปีนี้
“ที่ผ่านมา เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษ ครึ่งหนึ่งจะกลับมาติดคุกอีก เพราะออกไปแล้วไม่รู้จะทำมาหากินอะไร ดังนั้น เราต้องสร้างงานให้พวกเขามีงานทำเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ เขาจะได้ไม่กลับมาทำผิดอีก ซึ่งเมื่อพูดถึงกรมราชทัณฑ์คนมักจะมองว่าเป็นโรงงานเฟอร์นิเจอร์ เราต้องเปลี่ยนให้เขามองว่าเป็นแหล่งผลิตแรงงานคุณภาพให้ได้ และต้องทำให้สังคมเข้าใจว่า ผู้ต้องขังเมื่อพ้นโทษไปแล้วสามารถปรับตัว เปลี่ยนแปลงตนเองและมีชีวิตเหมือนคนปกติได้” นายสมศักดิ์ กล่าว